Title: Caffeine High
Pairing: Remy Lebeau/Pietro Maximoff
Genre: tooth-rotting fluff (I suppose haha)
Translater: Kowling
Original: Caffeine High
Caffeine High
มันไม่ใช่งานที่สมบูรณ์แบบนักหรอก อันที่จริง.. ปิเอโตรไม่อยากจะทำงานอะไรเลยเสียมากกว่า ใครมันจะอยากทำทั้งที่ตนเองก็สามารถได้อะไรที่ต้องการอย่างง่ายดายอยู่แล้ว หากแต่แม่ของเขายังยืนกรานเช่นนั้น ให้เหตุผลว่าการเป็นขโมยนั้นไม่ใช่การหาเลี้ยงตัวเองที่ดี อยากให้เขาเห็นถึงคุณค่าของเงินบ้าง ทั้งยังอยากให้เขาช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินด้วย ซึ่งอายุของปิเอโตรเองนั้นก็สามารถจะทำได้แล้ว
นิสัยลักเล็กขโมยน้อยของเขาก็คงเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งด้วยที่ทำให้แม่ตัดสินใจแบบนี้ แม่ไม่เคยบอกให้แวนด้าหางานพิเศษทำ เพราะเธอเองก็ไม่ได้อยู่บ้านตลอดเวลาเหมือนอย่างเขา อีกทั้งเธอยังไม่เคยขโมยของอะไรด้วยต่างหาก
ปัญหาของการหางานพิเศษทำคือปิเอโตรขโมยของมาแล้วทุกร้านที่ห่างจากบ้านในรัศมีห้าสิบไมล์นี้ ดังนั้นแล้วการสมัครงานในที่เหล่านั้นจึงค่อนข้าง.. รู้สึกแปลกๆนิดหน่อย
“ แต่พี่ก็ขโมยกาแฟไม่ได้นี่นา จริงมั๊ย? ” แวนด้ากล่าวกับเขาในคืนหนึ่งที่ตนเองรู้สึกกังวลนักหนาว่าควรจะทำอย่างไรดี “ อีกอย่าง.. พี่ก็ชอบกาแฟ ”
“ เธอหมายความว่าไง? ” ปิเอโตรเอ่ยถาม “ ฉันควรเป็นบาริสต้าจริงๆเหรอ? ”
“ ก็ใช่ ” แวนด้ากล่าวตอบ
ใช้เวลาประมาณห้าวินาทีเห็นจะได้ที่ปิเอโตรคิดว่าความเห็นนั่นช่างน่าขบขันยิ่งนัก หากแต่ก็ตระหนักว่าแวนด้าพูดถูกแล้ว.. เธอน่ะถูกเสมอแหละ
ดังนั้นแล้ววันต่อมาเขาจึงเดินไปยังร้านกาแฟ(ต้องเดินอยู่แล้วเพราะถ้าหากวิ่งด้วยระดับความเร็วเหนือเสียงแบบนั้นคนคงได้ตกใจกลัวกันหมด) เพื่อที่จะสมัครงาน ขณะที่กำลังเขียนรายละเอียดและยื่นมันให้กับพนักงานนั้นเอง เด็กหนุ่มคนนั้นพลันมองหน้าเขาก่อนจะเอ่ยถาม “ เราเคยเจอกันมาก่อนมั๊ย? ”
“ อืม.. ไม่นะ ” ปิเอโตรเกือบจะวิ่งหนีแล้ว ทว่าเด็กหนุ่มนั่นกล่าวต่อ
“ คุณมาที่นี่บ่อยน่ะ ” ฝ่ายพนักงานเอ่ย “ แล้วก็สั่งมอคค่าตลอด ผมจำไม่ผิดใช่มั๊ยเนี่ย? ”
“ อ่า.. ครับ ” ปิเอโตรเสยกลุ่มผมสีจางขึ้นลวกๆ “ ใช่ครับผมเอง ” เขาเองค่อนข้างรู้สึกแปลกใจ เพราะน้อยนักที่คนจะรู้จักเขาด้วยเหตุผลอื่น ไม่ใช่ไอ้เด็กตัวแสบที่ก่อปัญหาอยู่เรื่อย
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
เมื่อกลับมาถึงบ้าน แวนด้ามองเขาครู่หนึ่งก็ถึงกับส่ายหน้า “ พี่จะไปทำงานแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาดเลย ”
“ แบบไหนอะ?! ” ปิเอโตรร้องลั่น สายตาสำรวจมองตนเอง
“ ผมพี่ไง โคตรเห่ยเลย ”
“ ก็มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิดนี่นา! ” ปิเอโตรแย้ง
“ ฉันก็ไม่ได้หมายถึงสีผมซะหน่อย ” แวนด้ากล่าว “ พี่ต้องตัดผมนะ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแม่ไม่ว่าพี่เรื่องนี้บ้างหรอ รกซะขนาดนี้ ”
“ ก่อนจะว่าฉันน่ะ ดูผมตัวเองซะก่อนเหอะ ” ปิเอโตรชี้ยังกลุ่มผมของเด็กสาวที่หยักลอนและยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง
“ ตัดผมซะ ” แวนด้าออกคำสั่ง “ เดี๋ยวนี้ ”
“ แต่ร้านตัดผมมันปิดหมดแล้วนะ ”
“ ใครบอกจะให้พี่ไปตัดผมที่อื่นล่ะ ” ทันทีที่เธอกล่าวจบ นัยน์ตาของเด็กหนุ่มพลันเบิกกว้าง เขารีบถอยห่างจากแฝดคนน้อง ทว่าช้าไปเสียแล้วเมื่อเธอใช้พลังเวทมนตร์ร่ายคาถาปิดทุกประตูในบ้านและล็อคมันอย่างแน่นหนา เหลือไว้เพียงบานประตูห้องน้ำเท่านั้นที่เปิดอยู่
สิบนาทีหลังจากการถกเถียงกันอยู่พักใหญ่ ท้ายที่สุดแล้วทั้งคู่จึงมาจบในห้องน้ำโดยที่แวนด้ากำลังตวัดกรรไกรตัดเล็ม กระจุกผมสีเงินอ่อนกระจัดกระจายทั่วพื้น
“ ทีนี้อย่ามาหาว่าฉันไม่เคยทำอะไรให้พี่อีกนะ ”
สีหน้าของปิเอโตรดูไม่ค่อยจะพอใจนักเมื่อเห็นสภาพของตนเองในกระจก กลุ่มผมสะเปะสะปะทุกทิศทางไม่เป็นทรง ราวกับเพิ่งวิ่งต้านลมมาเสียอย่างนั้น
“ แวนด้า เธอไปเรียนตัดผมมาจากไหนเนี่ย? ”
“ ฉันใช้เวทมนตร์ให้กรรไกรทำงานเองน่ะ ”
เด็กหนุ่มถอนหายใจพรืดยาว “ ฉันชอบให้มันยาวมากกว่า นี่ดูสิ เห็นหูหมดแล้ว ”
“ แล้วไงล่ะ? หูพี่ก็สวยดีนี่ ” แวนด้ากล่าวตอบแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว
..เขาไม่เห็นจะเข้าใจเลย
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
ปิเอโตรได้เข้าสัมภาษณ์งานในสองวันถัดมา เขาจำจนขึ้นใจว่าต้องพูดจาให้ช้าลงทั้งยังต้องมีความอดทนต่อหญิงสาวตรงหน้าผู้ซึ่งอาจจะกลายมาเป็นเจ้านายของเขาในอนาคต ผลสุดท้ายคือเขาได้รับเข้าทำงานที่นี่ สองวันต่อมาชุดประจำจึงมีผ้ากันเปื้อนสีดำเพิ่มเข้ามาพร้อมด้วยป้ายชื่อบนอกที่เขียนว่า ‘ปีเตอร์’
“ ผมชื่อปิเอโตรนะ ” เขาเอ่ยบอกกับผู้หญิงอีกคนที่ทำงานด้วยกัน เธอมีนามว่าเบ็ทซี่
“ ไม่เหมือนใครดี ” เบ็ทซี่กล่าว “ คือเราใช้ป้ายชื่อต่อกันมาน่ะ แล้วมันก็ไม่มีปิเอโตร แต่อย่างน้อยนายก็โชคดีที่ได้ชื่อใกล้เคียงนะ ”
“ งั้นชื่อจริงคุณก็ไม่ใช่เบ็ทซี่หรอ? ”
“ ก็ไม่ใช่น่ะสิ ”
.
.
ทั้งวันนั้นปิเอโตรใช้เวลาไปกับการศึกษาการใช้งานเครื่องชงกาแฟและบรรดาประเภทเครื่องดื่มทั้งหลาย เรียนรู้ถึงรสนิยมกาแฟอันแปลกประหลาดของผู้คน อ้อ.. เพิ่งได้รู้ด้วยว่าเขาน่ะดูดีมากๆยามเมื่อสวมใส่เสื้อผ้าสีดำทั้งชุดแบบนี้ แม้ว่ามันจะไม่ใช่ชุดทางการของบาริสต้าประจำร้านก็ตามที
อย่างน้อยก็มีลูกค้าชมว่าพนักงานคนใหม่นี่น่ารักน่ะนะ ปิเอโตรเองจำหน้าพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้ด้วยซ้ำ
“ มัน.. แปลก ” เขากล่าวกับแวนด้าหลังจากผ่านพ้นการทำงานในวันแรก “ ฉันชอบอะไรหวานๆแต่บางคนเขา.. แค่เอสเพรสโซ่ใส่โฟมนมเนี่ยนะ? ”
“ บางคนก็แค่ดื่มกาแฟเพื่อให้รู้สึกตื่นตัวน่ะ ”
.
.
วันที่ของการทำงานเริ่มต้นผ่านไปดีกว่าวันแรกเสียอีก ดีจนสร้างความประทับใจให้เบ็ทซี่มากทีเดียว ซึ่งปิเอโตรบอกกับเธอเพียงว่า “ เผอิญผมเป็นพวกเรียนรู้ไว ”
จนเมื่อช่วงเวลาสงบอันน่าเบื่อหน่ายของร้านก็ได้มาเยือน ในทุกวันจะต้องมีเวลานี้ที่ไม่มีลูกค้าเข้ามาเลยแม้เพียงสักคนเดียว และมันก็จะไม่มีอะไรทำเลยนอกเสียแสร้งทำว่าวุ่นวายนักหนา มันทำให้เขาประสาทเสีย
ปิเอโตรทำความสะอาดโต๊ะอย่างน้อยก็เป็นครั้งที่สองแล้ว พยายามที่จะใช้ความเร็วเทียบเท่ามนุษย์ทั่วไป ขัดถูเครื่องชงกาแฟ เช็ดล้างบรรดาจานและถ้วยกระเบื้องทั้งหลาย จัดเรียงขนมหวานเข้าเตาอบเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับความวุ่นวายในช่วงบ่าย
เด็กหนุ่มเคาะเท้าเสียงเปาะแปะด้วยความเร็วที่ทำมันดังอื้ออึงได้จนหลายคนรู้สึกได้ แต่ก็ไม่มีใครสังเกตได้ว่าเป็นตัวเขา อ่า.. นั่นดีแล้ว
“ นี่แค่สิบเอ็ดโมงเองเหรอ? ” ปิเอโตรเอ่ยถาม
“ อะไรนะ? ”
“ มันยังไม่เที่ยงอีกเหรอ? ”
เบ็ทซี่เพียงแต่ยักไหล่ “ เดี๋ยวก็เที่ยงหน่า ”
คราวนี้เด็กหนุ่มเริ่มครุ่นคิดถึงการแยกส่วนเครื่องชงกาแฟ ดูการทำงานของมันแล้วประกอบกลับดังเดิมเพื่อฆ่าเวลา ทว่าเสียงเปิดประตูจากลูกค้ารายใหม่ดังขัดขึ้นมาเสียก่อน เขารีบตรงเข้าไปต้อนรับ
“ สวัสดีครับ ต้องการจะรับอะไรครับ? ”
ฝ่ายลูกค้าร่างสูงโปร่งเพียงแต่จับจ้องมา เขาคิดว่านะ เพราะเจ้าตัวสวมใส่แว่นกันแดดสีทึบบดบังไว้อยู่ ก่อนจะเอ่ยปาก คำพูดเหล่านั้นถูกกล่าวออกมาอย่างเชื่องช้าที่สุดเท่าที่เขาเคยได้ยิน “ เดาว่านายคงดื่มเอสเพรสโซ่มา ใช่มั๊ย? ”
“ เรมี่ ” เสียงของฝ่ายหญิงสาวเอ่ยขึ้นด้านหลังของตัวเขา
“ สวัสดี ” เรมี่กล่าวทักทาย โบกมือให้เธอเล็กน้อย จึงได้สังเกตเห็นว่าฝ่ายนั้นสวมถุงมือหนังอีกด้วย ไม่อยากจะบอกหรอกนะว่ามันดูน่าขบขันไม่น้อย แต่ว่าไปก็คงเข้าตัว.. ปิเอโตรเองยังมีเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีเงินเลย
“ มีเด็กมาใหม่เหรอ? ”
“ ผมชื่อปิเอโตร ” เจ้าของผมสีเงินเอ่ยขัด
“ แต่นั่นไม่ใช่ชื่อบนป้ายนายนี่ ”
“ ช่างป้ายชื่อเถอะ ” เขาแย้งออกมา “ จะสั่งอะไร? ”
“ ฉันเคยบอกแล้วใช่มั๊ยว่าให้พูดสุภาพกับลูกค้า ” เบ็ทซี่กระซิบข้างหู “ แต่นั่นเป็นเรมี่ ไม่เป็นไรหรอก ดูเขาไว้ให้ดีล่ะ เขาจะมาขโมยเมล็ดกาแฟ ”
“ ผมโดนกล่าวหาอีกแล้ว ” เรมี่วางมือทาบอกตนเอง “ ไม่ได้จะมาขโมยอะไรซะหน่อย ”
“ ร้านแถวนี้ห้ามคุณเข้าเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่รึไง หื้ม? ” เบ็ทซี่ว่า “ ว่าแต่จะสั่งอะไร? ”
“ ผมขอคาราเมลลาเต้ ” เรมี่เอ่ยสั่ง “ เพิ่มน้ำตาลนะ ” ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก
ปิเอโตยื่นแก้วให้กับหญิงสาวเพื่อนำไปชงกาแฟตามคำสั่งของฝ่ายลูกค้า ขณะชำระเงินนั้นเอง.. ชายหนุ่มเอนกายแนบกับเคาน์เตอร์ เมื่อปิเอโตรเงยหน้าขึ้นจากการนอบเงินทอนเตรียมให้จึงแทบสะดุ้ง เนื่องด้วยใบหน้าของอีกฝ่ายที่เข้าใกล้จนเกินพอดี
“ รู้จักคำว่าพื้นที่ส่วนตัวบ้างมั๊ยเนี่ย ”
“ ทำไมมาติดแหง็กอยู่ที่นี่ล่ะ? ”
ปิเอโตรกลอกตาหน่ายๆ “ ก็แค่เบื่อเลยมาทำงาน คุณคิดว่าไงล่ะ? ” เรียวมือยื่นเงินทอนให้อีกคน “ แล้วคุณเป็นขโมยจริงๆเหรอ? ”
“ ไม่ ถ้าไม่โดนจับได้ ”
“ คุณน่ะมันหัวขโมย เรมี่ ” เบ็ทซี่โต้ขึ้นท่ามกลางเสียงหวอจากการทำงานของเครื่องอุ่นนมร้อน
“ ไม่เอาหน่า ผมไม่เคยขโมยอะไรจากที่นี่นะ ”
“ ยังไม่เคย ไม่ได้แปลว่าจะไม่ทำ ” หญิงสาวบ่นอุบ
“ คุณเป็นขาประจำที่นี่เหรอ? ” เด็กหนุ่มเอ่ยถาม
“ อ่าฮะ ” ฝ่ายลูกค้าเงยหน้าจากเครื่องดื่มขึ้นมอง “ ผมนายสวยดีนี่ ”
เจ้าของกลุ่มผมสีซีดจางเผลอเลื่อนเรียวมือขึ้นมาที่ศีรษะโดยอัตโนมัติ โดดเด่นเสียอย่างนี้.. ใครต่อใครก็เป็นอันต้องพูดถึงมันทั้งนั้น บ้างก็ว่ามันดูมีเสน่ห์ บ้างก็ไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่ มีคนเคยบอกด้วยว่าทรงผมเขาน่ะมันโคตรล้ำอีกต่างหาก
เรมี่ยิ่งยื่นวงหน้าเข้ามาใกล้ “ นายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์เหรอ? ”
ปิเอโตรเผลอถอยหลังไปหนึ่งก้าว “ ผมเป็นบาริสต้า ”
“ กาแฟที่สั่งได้แล้ว ” เบ็ทซี่ยื่นแก้วเครื่องดื่มมาให้ ยัดมันลงกับมือของชายหนุ่ม “ ต้องการจะรับอะไรอีกมั๊ยคะ? ”
“ ถ้าเป็นเดทสักครั้งนึงคุณจะว่ายังไง? ” เรมี่หยอกล้อ
“ ไม่มีทางซะหรอก ” หญิงสาวปฏิเสธทันควัน ซึ่งนั่นทำให้ฝ่ายร่างสูงโปร่งแสร้งทอดถอนใจราวว่าตนเองกำลังผิดหวังอย่างถึงที่สุด ก่อนจะย่างกรายออกไปจากตัวร้าน
“ เขาเป็นใครกันแน่? ” ปิเอโตรท้วงถาม
“ หมอนั่นชื่อว่าเรมี่ เลอโบ อดีตหัวขโมยแห่งนิวออร์ลีนส์ ปัจจุบันมาเป็นไอ้ตัวแสบที่นี่ ” เบ็ทซี่กล่าวตอบ “ แต่ไม่ต้องไปใส่ใจหรอก ”
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
ปิเอโตรก็ไม่ได้นึกอยากจะใส่ใจกับฝ่ายนั้นนักหรอก ถ้าไม่ใช่ว่าในวันถัดมานั้น เรมี่มาเยือนที่ร้านอีกครั้งขณะที่เขากำลังทำความสะอาดโต๊ะอยู่ เจ้าตัวสั่งเครื่องดื่มแล้วจงใจเดินมานั่งใกล้กัน เอ่ยทักทายที่ทำให้ปิเอโตรสะดุ้งโหยง “ เฮ้! ” เขาไม่ทันได้สังเกตอีกฝ่ายด้วยซ้ำว่าเดินเข้ามาในตัวร้านตั้งแต่ตอนไหน
“ อะไร?! ” เขาหันขวับ อยากจะซัดผ้าขี้ริ้วเข้าหน้าไอ้หมอนี่เสียจริง
“ นายยังไม่ตอบคำถามฉันเลย นายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์รึเปล่า? ”
“ แล้วคุณเป็นรึไง? ” ปิเอโตรโต้ตอบ
ร่างสูงโปร่งกระตุกยิ้มก่อนจะเลื่อนแว่นสีทึบลงมา นัยน์ตาที่ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในเป็นสีดำสนิท เรื่อแดงตรงกลาง “ นายคิดว่ายังไงล่ะ? ”
“ ถ้าคุณเห็นว่ามันชัดเจนขนาดนี้ ” เด็กหนุ่มว่าพลางชี้เข้าที่เรือนผมแปลกประหลาดของตนเอง “ คุณจะถามทำไม? ”
“ บางคนก็มีรูปลักษณ์ที่แตกต่าง แต่ไม่ได้เป็นพวกกลายพันธุ์ ว่าแต่นายทำอะไรได้? ”
“ ผมทำกาแฟ ” ปิเอโตรกล่าวตอบ “ พลังของคุณคือการขโมยของรึไง? ”
“ เอาจริงๆนะ.. จับตาดูให้ดีแล้วกัน ” เรมี่ล้วงมือเข้าในกระเป๋าเสื้อ หยิบเอาไพ่ขึ้นมาหนึ่งใบ เป็นสิ่งที่ปิเอโตรแทบไม่ได้คาดคิดถึงเลยสักนิด เขาหัวเราะลั่น
“ กลไพ่เหรอ? ”
“ จะว่าอย่างนั้นก็ได้ ” แผ่นไพ่เรื่อแสงขึ้นมา ทำเอาปิเอโตรเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่เรมี่จะสะบัดข้อมือ ไพ่ใบนั้นลอยหวือตรงไปยังโต๊ะที่มุมหนึ่ง
เกิดระเบิดเสียงดังลั่น!
ทั้งฝ่ายเด็กหนุ่มและบรรดาลูกค้าต่างพากันตื่นตระหนก เรมี่ยังคงไม่รู้ร้อนรู้หนาว เขาหันไปหา คราวนี้ได้ตีอีกคนด้วยผ้าขี้ริ้วเข้าแล้วจริงๆ “ นี่คุณทำบ้าอะไรวะ?! จะฆ่าเรากันรึไง ”
“ โอ้ไม่เอาหน่า ” เรมี่เอ่ย “ มันไม่ได้อันตรายขนาดนั้นซะหน่อย อย่างน้อยก็ทำให้นายหายเบื่อ ”
“ ผมไม่ได้เบื่อนะ ”
“ ก็ไม่อีกแล้วไง ” หากทว่าตอนนั้นเองเรมี่เหลือบไปเจอว่าเบ็ทซี่กำลังจะเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงตรงเข้ามา เขาถอนหายใจพรืดยาว “ เอาล่ะ ต้องไปแล้ว ” ก่อนจะเร่งรีบเดินไปที่ประตูในทันใด
เบ็ทซี่วางมือบนลาดไหล่ “ ฉันน่าจะเตือนเธอก่อน ”
“ หมอนั่นทำแบบนี้บ่อยเหรอ? ”
หญิงสาวยักไหล่ “ ใช่ เขาเล่นกลพวกนี้ใส่บาริสต้าของเรา มีคนนึงถึงกับขอลาออก ฉันควรจะห้ามเขาแล้ว แต่ว่า… ”
“ เพราะเขาดูดีมากๆเลยใช่มั๊ยล่ะ? ” ปิเอโตรเลิกคิ้วถาม
“ แต่คราวหน้าเธอจะไล่เขาไปก็ได้นะ ”
เจ้าของกลุ่มผมสีเงินเบือนนัยน์ตามองยังโต๊ะที่เพิ่งทำความสะอาดไป ก่อนจะพบว่ามีไพ่ใบหนึ่งวางอยู่ หน้าปรากฏเป็นโพแดง ปิเอโตรหยิบมันขึ้นมาแล้วเก็บมันไว้อย่างเงียบเชียบ เขาคิดว่าเขากับเรมี่มีเรื่องต้องคุยกันเสียแล้ว
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
ฝ่ายนั้นไม่ได้มาเยือนที่ร้านอีกเลยจนกระทั่งท้ายสัปดาห์ และตอนที่เจ้าตัวมานั้น ปิเอโตรก็เพิ่งทำเครื่องดื่มไปไม่กี่แก้ว(เบ็ทซี่บอกเสมอว่าเขาน่ะเป็นพนักงานดีเด่น ทำงานได้ดีที่สุดนับตั้งแต่ที่เปิดร้านมาเลย) เขายื่นเมนูให้กับลูกค้าท่าทางสูงอายุเป็นคนสุดท้าย ก่อนจะตะโกนบอกเบ็ทซี่ว่า “ ผมพักแล้วนะ! ”
กว่าฝ่ายหญิงสาวจะเดินมาถึงตัวเขาเพื่อถามไถ่ว่าเกิดอะไรขึ้น ปิเอโตรก็ออกไปยืนที่หน้าเคาน์เตอร์ ขวางทางเจ้าลูกค้าตัวปัญหานั่นเข้าเสียแล้ว
“ สวัสด— ” ยังไม่ทันที่เรมี่จะได้กล่าวคำทักทายจนจบ สีหน้าไม่พอใจของเด็กหนุ่มทำเอาเขาชะงัก “ เฮ้ ไม่เอาหน่า ” ก่อนที่ร่างสูงโปร่งจะถูกลากพาออกไปด้านนอก
คนทั้งคู่หยุดยืนอยู่ตรงหน้าร้าน เรมี่กอดอกแล้วยิ้มเผล่ ก้มมองใบหน้าของเขา ..ซึ่งมันน่าขัดใจชะมัด ปิเอโตรคิดว่าตัวเขาเองก็สูงพอสมควรอยู่นะ ขณะที่อีกฝ่ายนั้นแตกต่างจากเขาเพียงไม่กี่เซนเอง แต่กลับดูสูงกว่านั้น
เด็กหนุ่มยื่นแผ่นไพ่คืนให้กับฝ่ายเจ้าของ เขานำมันติดตัวตลอดนับตั้งแต่วันที่อีกคนวางเอาไว้ให้ “ พอดีผมชอบข้าวหลามตัดมากกว่า ”
“ ได้เสมอ ” เรมี่รับมาแล้วเก็บมันไว้ดังเดิม “ ข้าวหลามตัดหลักแหลมเหมาะกับนายดี ”
“ คุณควรหยุดสร้างความวุ่นวายให้คนอื่นได้แล้ว ” ปิเอโตรเข้าเรื่อง “ คนในร้านจะไม่ให้คุณเข้ามาอีกต่อไปแล้วนะ ”
“ คนนั้นน่ะคือนายเหรอ? ” เรมี่ถามกลับ ซึ่งเด็กหนุ่มอยากจะตอบว่าใช่เสียเหลือเกิน หากไม่ใช่ว่าตัวเขาก็เองเคยโดนหมายหัวจากร้านนั้นร้านนี้มาแล้ว จะให้ไล่อีกฝ่ายที่ไม่ต่างกันแล้วมันเหมือนคนตีสองหน้า ไม่เอาด้วยหรอก
“ ก็แค่เตือนไว้ก่อน ”
“ ฉันพอจะนึกออกแล้วว่าพลังของนายคืออะไร ” ร่างสูงโปร่งเอ่ย “ ความเร็วนี่เอง ”
“ คุณรู้— ”
“ นายเผลอใช้พลังตอนลากฉันออกมาข้างนอกจ๊ะที่รัก ” สิ่งที่ได้ยินทำเอาปิเอโตรครวญคร่ำอย่างสิ้นหวัง เขาเบือนสายตามองเข้าไปในตัวร้าน พบเห็นเบ็ทซี่กำลังโบกมือกลับมา “ นายปิดมันไม่ได้หรอก ”
“ เงียบไปเลย มันยากนะเข้าใจมั๊ย ”
“ ก็พอจะนึกออก.. ต้องทนมองโลกกำลังหมุนไปช้าๆ.. จริงๆฉันก็ชอบความเร็วกับชีวิตเร่งรีบนะ ”
“ เหอะ.. ดูจากการพูดคุณแล้วไม่น่าใช่เลย ” เด็กหนุ่มแย้งกลับ
“ ทำไม? เพราะสำเนียงฉันหรอ? ” เรมี่แย้มยิ้ม “ เข้าใจกันหน่อย ฉันโตมาแถบทางใต้ ว่าแต่นายเองก็ดูจะชอบอะไรเหมือนฉัน ..ไปดื่มกาแฟด้วยกันมั๊ย? ”
“ ห๊ะ?! ” ปิเอโตรกระพริบตาปริบๆ “ ผมก็ขลุกอยู่กับกาแฟทุกวันอยู่แล้ว ไม่เอาด้วยหรอก ”
“ จริงๆฉันก็ไม่ได้หวังจะดื่มกาแฟซะหน่อย ”
เจ้าของกลุ่มผมสีเงินมองหน้าอีกฝ่ายครู่ใหญ่ มันดูเนิ่นนานทีเดียวสำหรับเขากว่าจะตระหนักได้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของฝ่ายนั้น “ นี่คุณชวนผมไปเดทเหรอ? ”
“ ก็.. ประมาณนั้น นายก็ดู.. น่ารักดี ”
ปิเอโตรยืนกอดอกแน่น “ ไม่นึกว่าคุณจะรุกหนักขนาดนี้ ”
“ จะคว้าโอกาสนี้ไว้มั๊ย? หื้ม? ถ้าปล่อยไปแล้วมาเสียใจทีหลัง อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ ”
“ เวรเอ้ย ” เด็กหนุ่มหลุดสบถ
“ ฉันช่วยตัดสินใจได้นะ ”
“ นี่คุณ— ” คำพูดที่เขาตั้งใจจะกล่าวต่อพลันชะงักงัน เมื่อสัมผัสจากปลายนิ้วของอีกฝ่ายเลื่อนมาแตะที่ผิวแก้ม รู้ตัวอีกทีร่างสูงโปร่งก็แนบเรียวปากลงมาทาบทับเสียแล้ว
ผ่านไปครู่หนึ่งชายหนุ่มจึงทอดถอนริมฝีปากออก เรมี่ยิ้มกว้าง ขณะที่ห้วงความคิดของปิเอโตรยังไม่ทันได้ประมวลผลทุกสิ่งอย่างได้ดีนัก จนเมื่อไม่กี่วินาทีผ่านไป เบื้องลึกในจิตใจพลันกรีดร้องลั่น เขาคำราม หลุดพ่นคำพูดออกมาอย่างรวดเร็ว
“ นี่คุณทำบ้าอะไรไม่นึกบ้างเหรอว่าคนข้างในจะเห็นรู้มั๊ยว่าผมซีเรียสนะพวกเขาต้องล้อผมแน่ๆเพราะคุณน่ะมัน— ”
“ พูดอะไรฟังไม่เห็นรู้เรื่อง ” เรมี่ไม่อาจจับใจความได้จริงๆ “ ไว้ฉันจะรอคำตอบเรื่องเดทของเรานะ ” ก่อนจะเคลื่อนกายห่างออกไป
“ ก็ได้วะ.. ” เด็กหนุ่มพึมพำเสียงแผ่ว ก่อนจะตะโกนหาอีกฝ่าย “ ผมจะไปกับคุณ! แต่แค่เดทเดียวนะ! ไม่เอาร้านกาแฟด้วย! ”
เรมี่เพียงแต่โบกมือลา ทิ้งปิเอโตรไว้ให้ถอนหายใจพรืดยาวแล้วจึงเดินกลับเข้าตัวร้าน
“ เป็นไงบ้าง? ” เบ็ทซี่กล่าวถาม
ทว่าฝ่ายเด็กหนุ่มกลับเดินผ่านเธอไปหยุดยังหน้าเครื่องชงกาแฟ “ เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีก ”
แล้วก็เป็นตามนั้น.. เบ็ทซี่ไม่ถามไถ่ถึงเรื่องนี้อีกเลยจนกระทั่งในสองวันถัดมา.. เรมี่มาเยือนที่ร้านอีกครั้ง คราวนี้มาพร้อมกับแผนการณ์เดทระหว่างเจ้าตัวกับปิเอโตรเสียด้วย
THE END
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
TALK TO WRITER:
ใช้ชื่อปิเอโตรแต่คุณไรท์แกบอกว่ายังไงก็เอาคาแรคเตอร์จากนุ้งควิกใน DoFP นะคะ 😀
เลือกแปลเรื่องนี้เพราะความฟลัฟจ๋าของมันนี่แหละค่ะ ฟลัฟในแบบคู่นี้อ่ะนะ มันต้องกัดกันน่ารักๆ ๕๕๕ อีกอย่างเป็นเอยูร้านกาแฟด้วย นึกภาพนุ้งควิกในชุดบาริสต้าคงน่ารักน่าดู แอร๊ยยย
มาขึ้นเรือนี้กันเยอะๆนะก๊ะ(ถึงแม้เวิร์สหนังจะยังไม่มาก็ตาม กร๊ากกก)
ปล.ผ่านการปรู๊ฟมาแค่รอบเดียว ผิดพลาดอะไรขออภัยนะคะ ;w;