Title: Fight, Scream, Kiss, Repeat
Pairing: Min Yoongi/Jeon Jungkook
Genre: Angst, Hurt/Comfort (Actually there’s no comfort), AU – HYYH storyline
Note: This is sequel of I didn’t fall, I jumped.
Fight, Scream, Kiss, Repeat
จอนจองกุกเพิ่งตระหนักได้ไม่นานมานี้ว่าความรักเป็นเรื่องจอมปลอม
โดยเฉพาะความรักจากผู้ชายที่ชื่อมินยุนกิ มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงชั่วครั้งชั่วคราวและไม่เคยจะมั่นคงหนักแน่น วูบเดียวที่มันเป็นความสุข หลังจากนั้นไม่นานมันก็แปรเปลี่ยนเป็นความขื่นขมจนเขาอยากจะหลีกหนีไปให้ไกล มันทำร้ายใจกันจนพังยับซ้ำย้ำไม่รู้จบ
และเมื่อตระหนักถึงสิ่งที่ตนเองได้รับ จองกุกก็เอาแต่นึกโทษการตัดสินใจที่ผิดพลาดในอดีต ถ้าหากในตอนนั้นเขาไม่พลั้งเผลอ เลือกจะปฏิเสธแล้วเดินหนีออกมา จบทุกอย่างไว้ที่หลังประตูบานนั้น ถ้าหากเขาเลือกจะใช้ความคิดพิจารณาการกระทำมากกว่าความต้องการทางใจสักนิด เชื่อคำเตือนที่ใครต่อใครได้กล่าวไว้..
หากแต่เวลาคือเส้นทางที่ไร้ซึ่งจุดย้อนกลับ และผลของปัจจุบันก็เกิดจากการกระทำในอดีต
สิ่งที่ทำได้มีเพียงการตัดขาดจากมันแล้วสร้างจุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
แต่อนิจจา.. ส่วนที่ยากที่สุดเมื่อจะลงมือทำอะไรสักอย่างมักเป็นการเริ่มต้นเสมอ
ในกรณีของจองกุก มันไม่ใช่ตอนที่เขากระดกแอบแซงธ์รวดเดียวหมดแก้ว ไม่ใช่ตอนที่ตัวเองต้องต่อสู้กับอิทธิฤทธิ์ล้นเหลือของภูตสีเขียว มันเหมือนพายุกำลังก่อตัวขึ้น บ้าคลั่ง กระจัดกระจายไร้ทิศทางและควบคุมไม่ได้ แต่เป็นตอนที่ยุนกิวิ่งตามเขาเข้ามาในห้องน้ำขนาดเล็กแห่งนี้
มันเป็นการตัดสินใจที่เขาไม่อยากยอมรับนัก
จุดเริ่มต้นในการปีนป่ายกลับขึ้นไปมันยากเย็นกว่าจุดเริ่มต้นของการร่วงหล่นมากโข
ทว่าจองกุกไร้สติเกินกว่าจะสนใจสิ่งรอบกาย รู้สึกแค่เพียงความฝาดขมชวนพะอืดพะอมในลำคอที่กำลังทรมานเขาอย่างหนัก จนเมื่ออาเจียนไปรอบหนึ่ง ภาพรูปร่างพิกลพิการและแสงสีประหลาดในความคิดจึงค่อยเลือนหายลง อาการวิงเวียนเริ่มทุเลาเล็กน้อย
“ จองกุก! ” น้ำเสียงคุ้นเคยเอ่ยเรียกชื่อเขาอย่างร้อนรน สติคืนกลับมาเกือบครึ่ง เขาถวิลหาอีกฝ่ายสุดหัวใจ แต่ถ้าจองกุกไม่เริ่มมันเสียตั้งแต่ตอนนี้ สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในก่อนหน้า วันนี้ จะก็เกิดขึ้นอีกครั้งในวันต่อๆไป
เขาต้องสร้างรอยปริแตกในวงเวียนแห่งความทรมานนี้ ทุบทำลายหัวใจตัวเอง ผลักไสเจ้าของสองมือที่พยายามจับแตะบนตัวเขาให้ออกห่าง เก็บซ่อนอาการเศร้าโศกทั้งที่ความอาวรณ์ท่วมท้นในแววตา ไม่อยากให้ยุนกิรู้ว่าถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีวันเอาชนะได้ จองกุกแพ้ตั้งแต่เริ่มและเป็นเช่นนั้นเสมอมา
ก็แค่คนใจร้ายคนหนึ่งที่เอาแต่ทำร้ายกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทำไมมันถึงเจ็บปวดเมื่อต้องตัดขาด
ทำไมถึงไม่เคยนึกหลาบจำกับสิ่งที่เจอ
ทำไม..
วินาทีนั้นเองภาพตรงหน้าของเขาก็พลันหมุนเคว้งและเบลอพร่า ก่อนที่จะถูกกลืนกินโดยความมืดมิดไปในที่สุด
ในช่วงเวลาอันแสนสั้น จองกุกเห็นสายตาของคนใจร้ายที่แสดงความเป็นห่วงเป็นใยกันอย่างชัดเจน
.
.
สิ่งแรกที่จองกุกรู้สึกหลังจากคืนสติกลับมาคืออาการปวดหนึบในศีรษะราวกับมีบางอย่างโขกกระทุ้งเข้าอย่างรุนแรง สิ่งที่สองคือความอบอุ่น.. มันไม่ใช่ความอบอุ่นอย่างที่ผ้านวมนุ่มฟูจะมอบให้กันได้ มันอบอุ่นเหมือนผิวเนื้อ หล่อเลี้ยงด้วยชีวิต กระเพื่อมเป็นจังหวะราวกับลำดับการหายใจ
เหมือนเป็นใครสักคน..
ความตื่นตระหนกโถมถล่มลงมาในความคิด จองกุกสะดุ้งตัวเล็กน้อยก่อนจะพยายามผละกายออก แต่เมื่อลืมตาขึ้นและตระหนักได้อ้อมแขนที่กอดไม่ยอมปล่อยนี้มีเจ้าของเป็นใคร การพยายามดิ้นขืนจึงถูกพับเก็บเอาไว้
เขาเห็นใบหน้าของยุนกิที่ใกล้เพียงคืบ
เด็กหนุ่มพิจารณาองค์ประกอบที่รวมกันในนั้น ทั้งผิวขาวซีด ริมฝีปากที่เผยอขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาเรียวรีที่ปิดสนิท มันสมบูรณ์แบบ.. สงบนิ่งเหมือนผืนน้ำราบเรียบ เขาเห็นเพียงมินยุนกิคนนี้ ไม่ใช่คลื่นทะเลบ้าคลั่งที่กร่อนกวาดทลายทุกอย่างให้เป็นเศษซากไม่มีชิ้นดี
ครั้นเมื่อตระหนักถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในก่อนหน้านี้ อาการร้าวยอกในอกก็พลันตีตื้นขึ้นมา
ไม่ว่าจะครั้งไหนที่เขาพยายามยึดที่จับจนแน่นแล้วปีนป่ายกลับไป ท้ายที่สุดแล้วเขาก็จะไถลร่วงลงมายังก้นบึ้งในหลุมลึกแห่งเดิมทุกครั้ง หัวใจของเขาก็ร้องเรียกหาแต่คนเดิม
ยุนกิ
ยุนกิ
ยุนกิ
เขาแพ้อีกแล้ว..
ทุกครั้งที่เขาถูกคนตรงหน้าฉีกกระชากออกจนแหว่งวิ่น ยุนกิก็จะเป็นคนที่หลอมรวมเขากลับดังเดิม
คนเดียวกันที่ทำร้าย.. คนเดียวกันที่รักษาเยียวยา..
ในระหว่างการเดินทางบนถนนความรักอันขื่นขม จองกุกกลับมายังจุดเริ่มต้นแสนหวานอีกครั้ง
.
.
ทุกครั้งที่ฝ่ายหนึ่งแพ้ อีกฝ่ายจะเป็นผู้ชนะ
จองกุกคิดมาตลอดว่ากฎเกณฑ์นี้ไม่อาจใช้กับความรักได้ เพราะเขาคิดว่ารักคือการปันใจให้กันและกันอย่างเท่าเทียม เกาะเกี่ยวฝ่ามือทั้งสองคู่อย่างแนบแน่นแล้วดำดิ่งล้ำลึกลงใต้เวิ้งน้ำกว้างใหญ่ด้วยกัน แต่ในตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นเลย.. ไม่เลยสักอย่าง รู้สึกเหมือนเป็นเด็กโง่ที่ไม่เข้าใจเรื่องความรักเลยแม้เพียงนิด
เขากลายเป็นคนเดียวที่จมจ่อมลงไป และสิ่งเดียวที่คว้าจับไว้ได้มีเพียงฝ่ามือกว้างของยุนกิ
ครู่หนึ่งที่ช่วยดึงขึ้นมาให้สัมผัสอากาศเบื้องบน ความปราณีเล็กน้อยที่ต่อชีวิตคนใกล้ตายได้มหาศาล ครู่ถัดมาก็ผลักไสเขาลงใต้ผืนน้ำอีกครั้ง
ทำไมเราถึงไม่แพ้ด้วยกันทั้งคู่?
สายตาเหม่อซึมมองสิ่งของกระจัดกระจายในตัวห้องอย่างเลื่อนลอย เก้าอี้ที่ตกกระเด็นไปอีกทาง เศษกระจกแหลกละเอียด ภาพของความโกลาหลก่อนหน้านี้ถูกฉายวนในความคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า นานเท่านาน จองกุกขดกายนอนนิ่งบนโซฟาตัวเก่า ร่องรอยของน้ำตายังคงปรากฏบนใบหน้า
เขาพ่ายแพ้ยับเยินเป็นรอบที่ร้อย รอบที่พัน..
หรืออาจจะมากกว่านั้น
ทว่าเมื่อใครอีกคนเดินเข้ามา ย่อกายลงตรงหน้า แนบเรียวมืออบอุ่นลงบนผิวแก้ม เรียวมือข้างนั้นที่เคยกระทบกระแทกบนใบหน้าอย่างรุนแรงจนทิ้งรอยช้ำและความเจ็บแสบไว้ให้ เคลื่อนใบหน้าเข้ามาแล้วประทับความนุ่มหยุ่นลงบนริมฝีปากที่ยังคงหลงเหลือแผลปริแตกและหยดเลือด
จองกุกตอบรับสัมผัสแผ่วจางนั้นด้วยความยินดี
THE END
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
TALK TO WRITER:
ขอบคุณบิ๊กฮิตค่ะฮือออออ ฟิคเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากโปสเตอร์ที่ปล่อยมานั่นแหละค่ะ ฮืออออนี่มันไม่ใช่แค่โบรมานซ์แล้วม้างงงง *น้ำตาท่วมเรือ*
ปกติถ้าแคนน่อนปล่อยอะไรมาจัดเต็มแบบนั้นเรามักไม่ค่อยเขียนฟิคสนองอะค่ะ แต่คู่นี้แบบ.. ขอเหอะไม่ไหวแล้ว (ต่อให้จะชงแล้วพ่ายแพ้บฮก็ตาม ๕๕๕๕)
แท็ก #kwlfic เหมือนเดิมนะคะ 😀