[Fiction] One Rainy Night (ก๋วยเตี๋ยว/มิน): Chapter I – The Bridge

Title: One rainy night

Pairing: ก๋วยเตี๋ยว(เลือดข้นคนจาง)/มิน(โฮมสเตย์)

Genre: Heavy angst, Hurt/Comfort, Fluff

Note: Hanahaki-disease คือ อาการของคนที่มีดอกไม้งอกขึ้นมาในปอด เกิดจากรักข้างเดียวหรือรักที่ไม่สมหวั

Chapter I The Bridge

 

กับในบางเรื่อง ถ้าสามารถย้อนเวลากลับไปได้ แม้จะรู้ล่วงหน้าว่าผลลัพธ์มันจะเละเทะเพียงใด ตัวเองก็คงจะยังตัดสินใจแบบนี้

กับคนบางคน ถ้าสามารถย้อนเวลากลับไปได้ แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าต้องกล้ำกลืนน้ำตาหากลองได้รัก แต่หัวใจเจ้ากรรมก็ยังคงเลือกคนนี้อยู่ดี

 

ก๋วยเตี๋ยวเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ที่สะพานมาได้ครู่ใหญ่แล้ว ถัดไปไม่ไกลนักเป็นเสาไฟต้นสูง แสงสว่างที่สาดลงมากระทบร่างนั้นเพียงเสี้ยวจนดูเหมือนทาบทับด้วยเงาราง สะท้อนกับละอองน้ำฝนที่กำลังร่วงโปรยลงมา กลายเป็นภาพตรึงสายตาให้เขาชะงักการก้าวเดิน

อันที่จริงมันไม่ใช่แค่เพราะองค์ประกอบอันงดงามของภาพหรอก อีกหนึ่งปัจจัยที่หยุดสายตาของเขาคือการกระทำของเด็กหนุ่มคนนั้นต่างหาก

 

เขาเห็นว่าสองมือนั่นกำลังยืนออกไปจับแน่นบนราวเหล็ก ลางสังหรณ์ในทางไม่ดีร้องเตือนให้ก๋วยเตี๋ยวเร่งฝีเท้าเข้าไปหา “ น้อง!

 

ฝ่ายนั้นสะดุ้ง มือที่จับราวเหล็กในก่อนหน้านี้ปล่อยออกอย่างรวดเร็วราวกับว่ากำลังจับของร้อน สายตาคู่นั้นมองมาที่เขาด้วยความตื่นตระหนกระคนระแวดระวัง เหมือนแมวจรที่ไม่ต้อนรับสัมผัสจากคนแปลกหน้า

“ เอ่อ..คือ.. ” ก๋วยเตี๋ยวอยากอธิบายให้อีกคนเข้าใจว่าตัวเขาไม่ใช่มิจฉาชีพหรืออาชญากร เขาไม่ได้ต้องการสิ่งใดนอกเสียจากให้เด็กหนุ่มคนนี้กลับบ้านอย่างปลอดภัย

 

“ น้องจะโดดเหรอ? ”

 

“ ผม.. ”

 

แม้จะถูกม่านฝนกางกั้น แต่แสงสว่างจากเสาไฟทำให้เขาสามารถเห็นแววตาอมทุกข์คู่นั้นได้ ยิ่งตอกย้ำว่าลางสังหรณ์ของเขาไม่ผิดเพี้ยน

 

            คนที่มองโลกในแง่ดีอย่างก๋วยเตี๋ยวไม่ค่อยเข้าใจความคิดคนที่เป็นทุกข์จนอยากปลิดชีวิตตัวเองนัก หากแต่เขาก็พอจะจินตนาการมันได้ ในยามที่ปัญหาบีบคั้นชีวิตคนเรา ด่านทดสอบอันยากแสนยากนั่นหมายจะขยี้ให้แหลกเละ ปิดกั้นหนทางจะไปต่อจนแทบไม่หลงเหลือ การกระโจนเข้าหาความตายคงเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ไม่ต้องเผชิญกับความทุกข์ใดอีกแล้ว

            ก๋วยเตี๋ยวไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เด็กคนนี้ทุกข์ใจถึงขนาดนั้น เขาไม่กล้าแตะเพราะไม่รู้ว่ารอยร้าวของหัวใจดวงนั้นปริแตกไปแค่ไหน บาดแผลลึกเพียงใด และไม่รู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุ ไอ้ประเภทคำพูดที่ว่า นึกถึงหน้าพ่อแม่เข้าไว้ ก็ควรจะพับเก็บไปได้เลย

            เขารู้เพียงแค่ว่าหัวใจยับเยินดวงนี้ควรมีคนช่วยประคับประคอง อีกฝ่ายไม่ควรอยู่ตามลำพังให้ความคิดมืดดำเชิญชวนกระโจนหาความตายเหมือนอย่างที่เจ้าตัวตั้งใจจะกระทำเมื่อครู่ก่อนหน้านั้นอีก

 

ก๋วยเตี๋ยวเอนร่มในมือไปทางด้านหน้าเล็กน้อย ให้รัศมีของมันพอที่จะกั้นสายฝนไม่ให้ร่างตรงหน้าเปียกปอนไปกว่านี้

“ มีอะไรก็บอกกันได้นะ พี่อยากช่วย ”

 

สายตาเหลือบมองตัวอักษรที่ปักบนเสื้อนักเรียน มันเป็นตัวอักษรย่อของโรงเรียนปทุมปัญญากร จำได้ว่ามีเพื่อนในคณะที่จบจากโรงเรียนนี้มาขอช่วยให้ไปเป็นตากล้องในงานกีฬาสี

 

“ พี่ชื่อก๋วยเตี๋ยวนะ เป็นเพื่อนไอ้บาส รุ่นพี่ของน้องอะ ”

 

ความระแวดระวังในแววตานั้นเริ่มผ่อนคลายลง แต่ก็ยังไม่ไว้ใจกันเต็มร้อยอยู่ดี “ ค..ครับ ” และมันยิ่งทำให้ก๋วยเตี๋ยวคิดว่าอีกคนเหมือนแมวจรเข้าไปใหญ่

 

คนอื่นอาจมองว่านี่คือความบังเอิญ แต่สำหรับเขามันคือพรหมลิขิต

พรหมลิขิตที่ทำให้เมล็ดพันธุ์ความรักแตกออกจากฝัก หยั่งรากลงในปอด

กิ่งก้านของมันเลื้อยพันพื้นที่ในอก หนามแหลมขูดขีดจนเคืองระคาย

หากทว่าการบานสะพรั่งของดอกไม้กลับยวนตายิ่งกว่าพืชพันธุ์ใดบนโลก

.

.

 

ภาพตรงหน้าเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยนจนทำให้ก๋วยเตี๋ยวอดนึกไม่ได้ว่าบางทีตนเองอาจจะตกอยู่ในวังวนของเวลา

สายฝนร่วงพราว แสงจากเสาไฟต้นสูง

ร่มคันนี้ที่ถืออยู่ก็ยังเป็นคันเดิมเหมือนเมื่อวันนั้น

สะพานแห่งเดิม เด็กหนุ่มคนเดิม

สิ่งเดียวที่แปลกตาไปจากเดิมคงเป็นทรงผมที่ไม่ใช่หน้าม้าเต่อเหนือคิ้วนั่นอีกแล้ว

แต่ที่สำคัญที่สุด ภาพนั้นยังคงตรึงสายตาของเขาเอาไว้ได้.. เหมือนเดิม

 

และก๋วยเตี๋ยวเองก็รู้ตัวว่าหากตนเองเดินเข้าไปเหมือนครั้งนั้น เหตุการณ์เดิมคงจะฉายซ้ำ ความรู้สึกเดิมคงกลับมา รู้ตัวดีว่าหากไม่เข้าไปก็คงกลายเป็นคนใจร้าย แต่ความเจ็บปวดที่เคยเผชิญตอนนั้นยังฝังแน่นในหัวใจ เขาได้รับบทเรียนแล้วว่าหัวใจของตัวเขาเองต่างหากคือสิ่งที่ควรหวงแหนที่สุด

 

“ พี่! พี่ก๋วยเตี๋ยวใช่มั้ยครับ?

 

แต่เสียงเดิมเสียงนั้นเรียกให้เขากลับไป..

 

.

.

 

ทรายสีแดงในนาฬิกายังคงร่วงหล่นไปในอีกฟากฝั่ง

            หลังจากตอบคำถามกับผู้คุมผิด สมองของมินคล้ายว่าจะประมวลผลอะไรต่อจากนั้นไม่ได้อีกแล้ว เขาไม่รู้เลยว่ามันผิดพลาดตรงไหนในเมื่อชัดเจนเสียขนาดนี้ว่าทุกคนรอบข้างทำให้มินคิดอยากปลิดชีวิตตัวเอง

            มินยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เม็ดฝนตกกระทบเหมือนเข็มขนาดเล็กเย็นจัดทิ่มแทงเข้าทุกส่วน หัวใจเหมือนโดนทุบจนแหลก ปลงตกแล้วว่าหลังจากนี้ไป เขาจะไม่มีสิทธิ์ได้พักอาศัยในโฮมสเตย์หลังนี้อีกแล้ว กลับไปเป็นวิญญาณเร่ร่อนที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองคือใคร และไม่มีวันได้ผุดได้เกิดอีกเลย..

 

ในช่วงวินาทีแห่งความสิ้นหวังนั้นเอง เขาพบกับใครคนหนึ่ง

            เจ้าของร่างสมส่วนกับร่มหนึ่งคันนั่นทำให้เกิดความเคยคุ้นก่อตัวขึ้นอย่างประหลาด ทันใดนั้นมินก็นึกได้ว่านั่นคือก๋วยตี๋ยว ลี้เคยบอกกับเขาว่าฝ่ายนั้นเป็นเพื่อนของรุ่นพี่ในชมรมแปรอักษรและแสตนเชียร์ เคยมาช่วยเป็นตากล้องให้กับชมรม เคยมาตามเทียวไล้เทียวขื่อเขาแต่ก็ล้มเลิกไปเพราะพบว่าเขาไม่ให้ความสนใจกันเสียที

 

มินคนเดิมไม่เคยกล่าวถึงอีกฝ่ายไว้เลยสักนิด ไม่มีชื่อในจดหมายลาตายฉบับนั้น ไม่ว่าจะในทางที่ดีหรือไม่ก็ตาม

ราวกับว่าก๋วยเตี๋ยวเป็นชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ในชีวิตที่มินคนเดิมหลงลืมไปนานแล้ว

 

แต่มินคนนี้กลับเห็นชิ้นส่วนชิ้นนี้อย่างแจ่มชัด

 

“ พี่! พี่ก๋วยเตี๋ยวใช่มั้ยครับ?

 

เขาตะโกนฝ่าเสียงสายฝนที่ตกกระหน่ำออกไป ชายถือร่มคนนั้นหันกลับมา มินสังเกตเห็นว่าแววตาของก๋วยเตี๋ยวเศร้าสร้อยเมื่อพบกับเขา แต่มันก็เปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกอย่างฉับพลัน ก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งตรงเข้ามาหา

“ มิน!

 

หัวใจของก๋วยเตี๋ยวแทบจะร่วงดิ่งจากสะพานไปแล้วเมื่อเห็นว่าใบหน้าของคนที่ตัวเองอยากจะลืมที่สุดนั้นเปื้อนด้วยเลือด ก๋วยเตี๋ยววิ่งตรงเข้าไปหา นึกโล่งใจเมื่อได้พิจารณาใกล้ๆแล้วพบว่านั่นเป็นแค่เลือดกำเดา ไม่มีรอยฟกช้ำอื่น ไม่น่าจะเกิดจากการถูกทำร้ายแต่อย่างใด

 

“ ตกใจหมดเลย พี่นึกว่าใครทำอะไรมิน ”

 

ก๋วยเตี๋ยวมองคราบเลือดนั่น คิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดี เขาไม่ใช่คนที่พกผ้าเช็ดหน้าติดตัว จึงใช้ปลายนิ้วเช็ดเลือดออกให้แทน ไร้ซึ่งทีท่ารังเกียจใดๆ มินเองก็ดูประหลาดใจไม่น้อยกับการกระทำนี้

“ ไปที่รถกัน เดี๋ยวพี่จะได้เอาทิชชู่ซับให้ ”

.

.

 

โต๊ะของร้านก๋วยจั๊บโต้รุ่งริมทางเจ้าประจำที่อาม่าของเขาติดอกติดใจหนักหนาย้ายเข้าไปพื้นที่ของกันสาดเนื่องจากวันนี้ฝนตก ทั้งตัวร้านมีลูกค้านั่งอยู่สามคนกับอีกหนึ่งรายที่ยืนกางร่มรอซื้อกลับบ้าน ฝนที่ตกกระหน่ำเมื่อก่อนหน้านี้แผ่วซาลงเหลือเพียงละอองโปรยเล็กน้อยเท่านั้น

       ชายหนุ่มตักเส้นหลอดกับหมูกรอบเข้าปาก น้ำซุปก๋วยจั๊บร้อนๆที่ซึมซับมาด้วยก่อความอุ่นซ่านขณะกลืน พอจะช่วยบรรเทาความหนาวเย็นจากละอองฝนลงได้บ้าง

ก๋วยเตี๋ยวเหลือบสายตามองมินที่กำลังตักน้ำซุปเข้าปากบ้าง ครู่หนึ่งที่เขารู้สึกว่าคนตรงหน้าแปลกเปลี่ยนไป ไม่เหมือนคนเดิมที่เคยรู้จัก แววตาคู่นั้นที่เขาเคยมองว่าหมองหม่นกลับกลายเป็นความขุ่นเคืองจางๆ ก็ยังเหมือนแมวจรไม่มีผิด เพียงแต่มินคนนี้ดูเข้าหาได้ง่ายกว่า

 

ครั้นเมื่ออีกฝ่ายรู้ตัวว่าเขากำลังมองอยู่ มินเงยหน้าขึ้นมองเขาตอบ กว่าจะรู้ตัวว่าดวงตาคู่นั้นอันตรายมากแค่ไหน ก๋วยเตี๋ยวก็พบว่าเขายืนอยู่ริมหน้าผาอีกครั้ง และข้างล่างนั่นคือหลุมรักที่เต็มไปด้วยลวดหนามแหลมคมที่พร้อมจะร้อยรัดมัดตรึงให้ปีนกลับขึ้นมาไม่ได้อีก

เขารีบเสสายตาหลบมองลงในถ้วยก๋วยจั๊บของตัวเองตามเดิม

 

“ ผมกับพี่.. ก่อนหน้านี้เราสนิทกันระดับไหนเหรอครับ?

 

ก๋วยเตี๋ยวรู้สึกเหมือนได้เดินห่างจากริมผานั่นออกมาหนึ่งก้าว ประโยคคำถามนั่นคล้ายจะเตือนสติว่าตัวเองนั้นไม่ได้สลักสำคัญอะไรกับอีกฝ่ายเลยสักนิด “ ก็.. ไม่มากหรอก พี่จีบแทบตายมินไม่เห็นสนใจเลย จะมาชอบพี่ตอบตอนนี้อะไม่ทันแล้วนะ ”

 

ในขณะที่เขาจำได้ทุกอย่าง

รอยแผลเป็นบนหน้าอกของก๋วยเตี๋ยวยังคงปรากฏอยู่อย่างชัดเจน มันย้ำเตือนว่าความรู้สึกนั้นเคยเกิดขึ้น

 

ไม่ใช่ว่าเขาจะจำไม่ได้ว่าการกระอักไอออกมาเป็นกลีบดอกไม้นั้นก่อความทรมานมากเพียงใด

ไม่ใช่ว่าเขาจะจำไม่ได้ว่าทุกครั้งที่มันแย้มบานเมื่อนึกถึงหน้าคนเดิมคนนี้ทำให้อึดอัดเจียนตาย

ไม่ใช่ว่าเขาจะจำไม่ได้ว่าการผ่าตัดเอามันออกนั้นมีความเสี่ยงต่อชีวิตมากทีเดียว มันทำให้เขาเกือบไม่รอดเสียด้วยซ้ำ

 

ถึงแม้ความรู้สึกจะเลือนหายไปพร้อมดอกกุหลาบนั่น หัวใจเจ้ากรรมก็ยังดื้อรั้น พกผ้าขนหนูไว้ในรถเสมอเผื่อว่าวันหนึ่งจะเจอใครสักคนในคืนฝนตกที่ทำให้รู้สึกรักได้มากขนาดนี้อีก ใครคนนั้นที่จะไม่ฆ่ากันด้วยรักข้างเดียวเหมือนที่มินทำกับเขา

แต่ไม่นึกเลยว่าจะได้ใช้ผ้าขนหนูผืนนี้กับคนเดิม

 

“ จริงเหรอครับ ว้า เสียดายอะ ผมเพิ่งเลิกกับพี่พายพอดี ” มินแกล้งตอบด้วยเสียงกระเซ้าแหย่ แต่มันทำให้ก๋วยเตี๋ยวถึงกับชะงักการเคี้ยวไปครู่หนึ่งทีเดียว

 

เมล็ดพันธุ์ความรักยังคงซ่อนซุก ณ มุมหนึ่งของห้วงหัวใจ

รอการเติบโตอีกครั้งหนึ่ง

 

TBC.

_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _

TALK TO WRITER:

อยากเขียนคู่นี้มานานแล้วค่ะวี๊ดดดดด ได้เขียนสักที

สำหรับฟิคนี้ใช้แท็ก #ficlovegrown นะคะ

 

 

 

 

 

2 thoughts on “[Fiction] One Rainy Night (ก๋วยเตี๋ยว/มิน): Chapter I – The Bridge

  1. มันดีมากเลยน้องมิว T__T ภาษายังงดงามเหมือนเดิม ชอบคำเปรียบเปรยเรื่องการยืนบนหน้าผา ถ้าตกลงไปคือหลุมรัก คือบับบบ *เอามือตะปบคีย์บอร์ดเหมือนแมว* ผูกเรื่องดีอะ มันคือการต่อยอดจากพล็อตโฮมสเตย์ที่ดีมากกกก คาแรกเตอร์ก๋วยเตี๋ยวคือชัดเจน เป็นคนดี เป็นพ่อพระ เป็นผู้มีเมตตากรุณามุทิตาอุเบกขา เป็นคนจิตใจงามที่โลกต้องการแต่น้องมินคนเก่าไม่ต้องการ!! *กัดผ้าเช็ดหน้า* คอยเอาใจช่วยพี่ก๋วยเตี๋ยวนะฮะ น้องมินคนนี้ต้องมองเห็นความรักของพี่เขาแน่นอน

    ปล.1 ภาษาสวยจนอยากจะร้องไห้ คิดถึงฟิคน้องมิวมาก (ถึงเราจะเขียน Lily ด้วยกันก็เถอะ เอ๊ะ ยังไง งงมั้ย 55555)
    ปล.2 อันนี้เป็นจุดเล็กๆนะ แต่ชอบตรงที่เอาตัวละคร “ลี้” มาใส่ จริงๆนางเป็นตัวละครที่พี่ชอบนะ ตอนดูหนังอะ

    สู้ๆจ้าาา ดีใจที่น้องไม่เว้นวรรคการเขียนฟิคเช่เจมส์ 555555555555555555

    Liked by 1 person

Leave a comment