[Ficlet] Heartstrings of the sea witch (Gakook)

Title: Heartstrings of the sea witch

Pairing: Min Yoongi/Jeon Jungkook

Genre: Fluff, Light angst

Note: Sequel of Creature of the deep

 

Heartstrings of the sea witch

 

 

คราแรกที่ได้พินิจวงหน้า ดวงใจคล้ายค้นพบบางสิ่งที่เร้นหายไปเนิ่นนาน

 

            จองกุกคิดว่าตนเองจะชะตาขาดแล้วเสียอีกยามเมื่อพบเจอกับบุคคลที่ใครต่อใครต่างพากันร่ำลือว่ามิควรเฉียดใกล้  ในข้อหาบังอาจมารุกล้ำถึงถิ่นที่รโหฐาน ทั้งที่จริงแล้วเขาหาได้มีเจตนาร้ายอันใดเลย เพียงแต่ต้องการทลายกำแพงความคลางแคลงใจนั่นลง

 

เขาแค่อยากพบเจอกับอีกฝ่ายด้วยตนเอง อยากพิสูจน์ว่าคนตรงหน้าสามารถบันดาลสิ่งที่ปรารถนาให้เป็นจริงได้หรือไม่

ทว่ามันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คาดคิดไว้นัก บรรยากาศทึมทะมึนทำให้เรือนกายของเงือกหนุ่มสะท้านไหว ไม่อาจหาญแม้แต่จะมองวงหน้า

 

“ เจ้าพูดไม่ได้.. ” ผู้ครอบครองพลังเวทมนตร์ดูจะไม่ได้ประหลาดใจกับความพิกลพิการของเขานัก

 

เขาพยักหน้าตอบรับ ตลอดชั่วชีวิตที่ผ่านมา จองกุกหวังเพียงโอกาสสักครั้งที่จะได้เอื้อนเอ่ยวาจาเหมือนอย่างใครอื่น

 

“ เงยหน้าขึ้นมาเถิด ข้าไม่จับเจ้ากินหรอก ”

 

เขากระทำตามอย่างหวาดหวั่น ทว่าพลันนั้นเองที่ได้สบสายตา พบกับร่องรอยแปลกประหลาดภายในนั้นที่ชวนให้ดวงใจเต้นรัว จองกุกกลับลืมสิ้นในสิ่งที่ปรารถนา

.

.

 

นัยนาสบมองวงหน้าของเงือกหนุ่มที่ใกล้จะพริ้มหลับด้วยความเหนื่อยล้า ร่องรอยบอบช้ำตามเรือนกายเลือนจางลงไปแล้วหลังจากเขาใช้พลังเวทย์ในการช่วยเยียวยา ส่วนบาดแผลของตัวเขาเองนั้นคงไม่อาจรักษาได้อีกแล้ว ฉมวกแหลมคมนั่นตัดเอาส่วนหนึ่งของร่างกายจนแหว่งวิ่น

 

ต่อจากนี้ไปก็คงจะเคลื่อนกายได้ลำบากขึ้น ทว่านั่นหาใช่เรื่องใหญ่โตนักหรอก

 

“ ยังโกรธข้าอยู่อีกหรือไม่? ”

 

ณ ขณะนี้ สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือความสัมพันธ์ของเขากับยุพราชเงือก

 

จองกุกหลุบสายตาลงก่อนจะพยักหน้า นั่นทำให้เขาถอนหายใจ คาดเดาไว้แล้วว่าจะต้องลงเอยเช่นนี้ เพราะถ้าหากยุนกิเป็นจองกุกเองนั้น เขาก็คงไม่ให้อภัยอย่างง่ายดายเช่นกัน  “ ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าถูกทำร้าย ”

 

“ แต่ก็อย่างที่ข้าเคยกล่าว เจ้าจะเอามันคืนไปก็ได้ ”

 

เพราะฝ่ายปีศาจแห่งท้องทะเลเป็นผู้ครอบครองบางอย่างไว้ สิ่งนั้นที่ทำให้จองกุกว่ายน้ำหนีไปจนถึงเขตแดนแสนไกลเมื่อได้รับรู้ความจริง จนต้องใช้เวลาเสียเนิ่นนานกว่าจะตามหาพบ

บางสิ่งที่สามารถใช้ทำร้ายและสังหารมนุษย์ได้ หากแต่มันกลับช่วยยืดเยื้ออายุขัยของเขาที่มันควรจะหมดสิ้นไปนานแล้ว

 

..เสียงของจองกุก

.

.

 

คราแรกที่ได้พินิจวงหน้า ดวงใจคล้ายค้นพบบางสิ่งที่เร้นหายไปเนิ่นนาน

 

“ สักวันเขาจักต้องถูกพวกมนุษย์ทำร้ายตามคำทำนาย ”

 

            ท้องพระโรงตกอยู่ในห้วงความเงียบงันนับตั้งแต่เมื่อเจ้าของพลังเวทมนตร์เยื้องกรายเข้ามา  มีเพียงเสียงหัวเราะอ้อแอ้จากเด็กน้อยบนห่อผ้า นัยนาเรียวรีจับจดกับดวงหน้าไร้เสียงสานั่นด้วยแววตานิ่งงัน ขณะเดียวกันนั้นเองที่ร่างแบบบางจ้องมองกลับอย่างสนอกสนใจ

 

ไร้ซึ่งความยำเกรง ไร้ซึ่งความหวาดหวั่น

เด็กหนอเด็ก..

 

“ มีเพียงท่านที่จะสามารถช่วยบุตรข้าได้ ” สุรเสียงขององค์ราชันย์แห่งท้องทะเลสั่นเครือ วงพักตราโศกสลด  “ ได้โปรด..

 

“ พระองค์หลีกเลี่ยงคำทำนายมิได้หรอก ”

 

ยุนกิยังคงพินิจสิ่งมีชีวิตตัวจ้อย ปลายนิ้วแตะบนผิวเนื้อนิ่ม ฝ่ายนั้นคว้าหมับก่อนจะหัวเราะชอบใจ ภาพตรงหน้าก่อความอุ่นซ่านในห้วงหัวใจอย่างมิเคยเป็น  “ แต่ข้าพอจะช่วยให้มันบรรเทาลงได้ ”

 

“ ข้าขอขอบใจท่าน ”

 

เพราะยุนกิเห็นบางอย่าง.. พลังอำนาจในเสียงของเผ่าพันธุ์เงือก นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะช่วยยืดเยื้ออายุขัยของตนให้ยาวนานออกไป “ ช้าก่อนพระองค์ ข้าต้องการสิ่งแลกเปลี่ยน ”

 

อนิจจา.. ปีศาจแห่งท้องทะเลกระหายซึ่งพลังอำนาจจนมิอาจมองเห็นด้ายแดงแห่งโชคชะตาที่ผูกเอาสองดวงใจเข้าไว้ด้วยกัน

.

.

 

“ เหตุใดจึงไม่เอาคืนไปเล่า? ”

 

            ประกายวับวาวภายในอัญมณีเม็ดงามเคลื่อนวนราวกับมีชีวิต มันซึ่งควรได้รับการส่งคืนสู่ผู้เป็นเจ้าของกลับถูกวางไว้บนเรียวหัตถ์ดังเดิม ความฉงนปรากฏบนใบหน้าของฝ่ายจอมเวทย์  “ เจ้าก็เห็นมิใช่หรือว่าเจ้าไม่ปลอดภัยเมื่อเจ้าไม่มีมัน ” ยุนกิตั้งใจจะคืนกลับอีกครั้ง ทว่าก็ได้รับการปฏิเสธเช่นเดิม

 

ความรักที่เขาเคยนึกว่ามันคือสิ่งลวงตากลับสามารถฉีกลอกดวงเนตรมืดบอดลุ่มหลงในอำนาจได้จนหมดสิ้น ยุนกิไม่ต้องการมันอีกแล้วหากมันทำให้จองกุกต้องตกอยู่ในอันตรายอีก

 

พลันนั้นเองที่ยุพราชเงือกเคลื่อนกายเข้าใกล้ สัมผัสแผ่วจางแตะบนผิวปราง เกลี่ยวนอย่างอ่อนโยน นัยน์ตาสุกใสพราวระยับ เรียวโอษฐ์ขยับเป็นรูปคำ ยุนกิเข้าใจมันอย่างชัดเจนแม้จะไร้ซึ่งเสียงใดให้ได้ยิน

 

ก็ข้ารักท่าน

 

ความรักอาจคือการประกอบรวมกันของความพิกลพิการเพื่อให้เกิดสิ่งสมบูรณ์แบบ

 

“ หากเจ้าต้องการเช่นนั้น ” ยุนกิคว้าเรียวมืออีกข้างของเงือกหนุ่มมาตรงหน้า บรรจงแนบแตะริมฝีปากบนผิวเนื้อนิ่มอย่างรักใคร่  “ ข้าขอตอบแทนเจ้าด้วยชีวิต ”

 

 

มันเริ่มต้นมาเสียเนิ่นนานและมิอาจได้รู้ตัวสักนิด..

นับตั้งแต่องค์ราชันย์ฝากฝังความปลอดภัยของยุพราชไว้กับเขาเมื่อครั้งนั้น

ดวงใจของตนเองก็ถูกฝากฝังไว้กับเรียวมือกระจ้อยร่อยคู่นั้นแล้วเช่นกัน

 

THE END

_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _

 

TALK TO WRITER:

นานๆจะได้เขียนอะไรฟลัฟๆค่ะ ๕๕๕๕ เขียนเอยูนี้แล้วแอบติดใจเบาๆ แต่เขียนสำนวนแนวๆนี้แล้วเหนื่อยค่ะฮื่อออ

ขอบคุณคุณเรย์ @refrainbow เช่นเดิมค่ะสำหรับเอยูนี้ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านด้วยนะคะ

 

แท็ก #kwlfic ค่ะ 😀  

 

[Drabble] Enough is enough (Clint/Pietro)

Title: Enough is enough

Pairing: Clint Barton (Hawkeye)/Pietro Maximoff (Quicksilver)

Genre: Angst

Note: มันก็จะ ooc หน่อยๆนะคะ งานรีบงานหยาบพอควรเลยค่ะ

 

 

Enough is enough

 

โลกใบนี้กำลังโกลาหลน่าดู..

 

ภัยครั้งใหญ่ใกล้เข้ามาเยือน อดีตเพื่อนร่วมทีมของเขาและสหายหน้าใหม่จากต่างดาวคงกำลังวางแผนร่วมป้องกันจากการรุกรานครั้งนี้  ซึ่งถ้าหากเป็นภารกิจทั้งหลายที่เคยพ้นผ่านมา ตัวเขาเองก็คงจะไปร่วมด้วยเช่นกัน

 

แต่ไม่ใช่ครั้งนี้.. และไม่ใช่อีกต่อไป..

 

มันอาจจะดูเห็นแก่ตัวนัก..

คลินท์ บาร์ตันอยากหลีกหนีจากความวุ่นวายทั้งปวง เขาไม่ใช่หนุ่มนักธนูเลือดร้อนที่กระหายการต่อสู้คนนั้นอีกแล้ว ผ่านความเป็นความตายมาหลายครั้งหลายหนเสียจนค้นพบแล้วว่าความสงบสุขต่างหากคือสิ่งที่ชีวิตของเขาปรารถนา

 

มีบ้านหลังเล็กอบอุ่น มีครอบครัวที่น่ารัก

ไม่ต้องกังวลว่าตนเองจะรอดกลับมาในแต่ละภารกิจหรือไม่ ไม่มีความเสี่ยงเพิ่มเติมอีกต่อไป

 

ปลายนิ้วหยาบกร้านลูบบนแหวนแต่งงานที่นิ้วนางซ้าย บางทีเขาอาจจะเป็นคนที่เห็นแก่ตัวจริงๆ

ไม่ใช่เพียงเรื่องการเกษียณแล้วปล่อยให้อดีตเพื่อนร่วมทีมไปเสี่ยงชีวิตปกป้องโลก

ทว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา.. เรื่องความรักของเขา..

 

 

อย่างน้อยก็คิดถึงหน้าลูกของคุณบ้าง

 

ทั้งที่มีครอบครัวสมบูรณ์แบบอย่างที่เคยต้องการอยู่แล้ว เขากลับเผลอไผลตัวเองกับเจ้าเด็กนั่นจนได้  เริ่มต้นถักทอความสัมพันธ์ผิดบาปจนมันกลายเป็นปมยุ่งเหยิงที่ไม่อาจแก้มันออก

 

ผมกำพร้าตั้งแต่สิบขวบ รู้ดีว่าการสูญเสียพ่อแม่มันเจ็บปวดยังไง

 

ช่างน่าละอายใจ ทั้งต่อภรรยาของเขา ต่อตัวเอง และที่สำคัญที่สุดคือเขาละอายใจต่อปิเอโตร

เขามันชั่วช้าเพียงใดที่บังอาจทุบทำลายหัวใจของใครคนหนึ่งที่อาจไม่เคยพบเจอความรักแบบนี้เลยสักครั้งในชีวิต

 

ไม่เพียงแต่หัวใจของอีกฝ่ายที่เขาขยี้มันให้แหลกเละ

 

“ ไม่เห็นเหรอว่าจะโดน ”

 

แววตาอ่อนล้ากับบาดแผลตามเรือนกายที่โชกชุ่มด้วยเลือดยังคงติดตรึงในความทรงจำ วินาทีที่เขาบีบมืออีกฝ่ายไว้แน่น ขอให้แข็งใจ ภาวนาให้คนอายุน้อยกว่ารอดพ้นจากความตาย

 

แต่อนิจจา.. คำขอของเขามันไม่เกิดขึ้นจริง

เด็กหนุ่มเสี่ยงเอาตัวเองมาบังกระสุนเพื่อช่วยชีวิตเขาเอาไว้

คลินท์ทำร้ายและทำลายชีวิตของปิเอโตรโดยสมบูรณ์..

 

ณ ตอนนั้นที่เขารู้ซึ้งถึงคำว่าใจสลาย จากความคิดครึ่งๆกลางๆระหว่างการปกป้องโลกกับใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป ทำให้เขาตัดสินใจหันหลังให้กับการต่อสู้  มันหนักหนาเกินกว่าที่เขาจะแบกรับได้ ไม่เอาอีกแล้ว.. พอเสียที.. ให้บาดแผลทางใจของเขามีเพียงเท่านี้ก็พอ

 

แม้จะรู้ว่ามันไม่สามารถเยียวยาได้อีกเลยตลอดกาล

 

THE END

_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _

 

 

[Drabble] Never be the same (Minmon)

Title: Never be the same

Pairing: Park Jimin/Kim Namjoon, Minor Kim Namjoon/Jung Hoseok (Fantastic beasts and where to find them AU)

Genre: Graphic depictions of violence

Note: มันคือการต่อยอดจากแดร๊บเบิ้ลเมื่อตอน kinktober D8 – blindfold ค่ะ

 

Never be the same

 

ความมืดเป็นอย่างแรกที่นัมจุนพบเจอหลังจากฟื้นคืนสติขึ้นมา

ส่วนอย่างที่สองที่เขารู้สึกคือความเจ็บปวดที่กระจายตัวตามเรือนร่าง

 

และอย่างที่สาม.. ก็คือเสียงฝีเท้าของใครสักคนที่เดินเข้ามาใกล้

 

ฟื้นแล้วเหรอครับศาสตราจารย์ “

น้ำเสียงเคยคุ้นแทบจะจำได้จนขึ้นใจ ใครคนนั้นที่ว่าก็คือปาร์คจีมิน ลูกศิษย์อันดับต้นในคาบเรียนของเขาเอง

 

“ สภาพดูไม่จืดเลย ”

 

พลันนั้นที่นัมจุนตระหนักได้ถึงเหตุการณ์ก่อนที่ตนเองจะหมดสติลงไป

เขาจำได้ถึงความโกลาหลที่เกิดขึ้น กลุ่มพลังเวทมนตร์ที่มาในรูปแบบควันสีดำ เขาจำได้ถึงความโกรธแค้นระคนเสียใจในแววตาของอีกฝ่าย เด็กหนุ่มบ้านสลิธีรินคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษธรรมดา แต่เป็นบางอย่างที่แม้แต่นัมจุนผู้ซึ่งเป็นศาสตราจารย์วิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดก็คาดไม่ถึงว่าจะได้เจอสิ่งนี้

 

นาย.. น..นายเป็น “

 

ใช่แล้วครับศาสตราจารย์ “

 

เขารู้สึกได้ว่าร่างนั้นขยับเข้ามาจนใกล้เพียงแค่เอื้อม ปลายนิ้วลูบวนตามความคดโค้งของเรียวปาก ” ผมเป็นออบสคูรัล ” นัมจุนอยากจะเบือนใบหน้าหนีไปอีกทางหนึ่ง หากแต่เด็กหนุ่มจับแน่นที่ปลายคาง ” แต่เรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะครับ “

 

เขาไม่มีแม้กระทั่งไม้กายสิทธิ์ประจำตัว อีกฝ่ายคงหักมันทิ้งไปแล้ว

 

มาสนเรื่องของเราดีกว่าครับ “

 

ศาสตราจารย์หนุ่มพยายามดิ้นขืนให้หลุดพ้นจากสิ่งที่พันธนาการข้อมือทั้งสองข้างไว้ ฝ่าเท้าถีบไถไปตามพื้นเพื่อให้พ้นจากเด็กหนุ่มตรงหน้า “ นี่มันอะไรกัน! ..นายทำอะไรของนายห๊ะจีมิน!

 

“ ชู่วว์ เบาๆสิครับ เดี๋ยวคุณโฮซอกเขาก็ตื่นมาอีกคนหรอก ” ครั้นเมื่อได้ยินชื่อคนรักเก่าจากปากของบุคคลอันตราย ความตื่นตระหนกพลันตีตื้นท่วมท้นในอก

 

“ อย่าทำอะไรโฮซอก! ”  

นัมจุนเพิ่งจะสามารถประสานรอยร้าวในความรักของเขากับโฮซอกได้  ทุกอย่างกำลังจะเป็นไปได้ด้วยดี เขาไม่อยากให้มันผิดพลาดอีกครั้ง ไม่อยากให้อดีตคนรักต้องมาเจ็บปวดเพราะเขาอีก

 

เขาควรจะปกป้องโฮซอกได้ดีกว่านี้

 

“ หึ.. ” เสียงหัวเราะแผ่วจากเด็กหนุ่มดังขึ้นข้างใบหู เรียวมือสางตามเรือนผมอย่างกับว่ารักใคร่เขาหนักหนา “ ไม่ต้องห่วงหรอกครับศาสตราจารย์ คุณโฮซอกปลอดภัยดี ”

 

“ ยังเก็บไว้เล่นได้อีกนาน ”

 

“ อย่านะอั่กก! ” เสียงร้องประท้วงขาดหายไปเนื่องด้วยความเจ็บปวดจากแรงขยุ้มที่กลุ่มผม

 

“ แต่ตอนนี้ผมขอเล่นคุณก่อนแล้วกัน ”

 

THE END

_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _

TALK TO WRITER:

ชักคิดว่าควรลงท้ายด้วย TBC. มากกว่าค่ะ ๕๕๕๕  จริงๆมันเป็นฟิคเปิดจักรวาล(?) อยากอ่านฟิคบังทันเอยูนี้มานานแล้วค่ะ เสนอไปหลายคนด้วย แต่สุดท้ายก็เอามาเขียนเองจนได้ค่ะ ๕๕๕

จะมีใครรอภาคต่อ(ซึ่งจะมีคนอื่นๆมาเพิ่ม)มั้ยคะ ๕๕๕๕๕

 

แท็ก #kwlfic ค่า :3

 

[SF] Love is a dog from hell (Gakook)

Title: Love is a dog from hell

Pairing: Min Yoongi/Jeon Jungkook (fem!yoongi, fem!jungkook), Platonic Min Yoongi & Park Jimin

Genre: Angst, Mention of Rape, Non-Graphic violence

Note: For #yoonkookweek_d4

 

 

 

Love is a dog from hell

 

ความรักอาจเป็นสิ่งอันทรงอิทธิพลต่อจิตใจมากเป็นที่สุด

            มันเคยมอบความสุขมากเท่าไหร่ก็เอาคืนกลับไปเป็นหลายเท่าตัว แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่มันเคยได้ก่อกระทำเอาไว้นั้นเจ็บปวดเจียนตายเพียงใด สร้างบาดแผลที่ต่อให้ใช้เวลาเนิ่นนานเพียงใดก็ไม่อาจเยียวยาให้หายสนิทได้  แม้จะให้สัญญากับหัวใจตัวเองว่าจะไม่ยอมให้มันกลับมาทำร้ายกันอีก ก็ไม่อาจจะกระทำได้

 

 

“ ข.. ขอโทษค่ะ ”

 

            อาการรีบเร่งจากเด็กสาวที่พยายามวิ่งให้ทันก่อนประตูลิฟท์จะปิดลงนั้นทำให้เธอไม่ทันได้ระวังร่างของใครอีกคนที่กำลังเดินสวนออกมาจากทางเลี้ยวตรงหน้า ปะทะแรงเสียจนล้มลงไปกองทั้งคู่ แฟ้มในมือหล่นร่วงไปอีกทาง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอควรห่วงในตอนนี้

 

“ ขอโทษจริงๆค่ะ ค..คุณเป็นอะไรรึเปล่าคะ ” เธอรีบขอโทษขอโพย นึกโทษตัวเองที่ทำให้อีกคนต้องมาเจ็บตัวแบบนี้

 

“ ฉันไม่เป็นไรหรอก ” ยุนจีกล่าวตอบเด็กสาวตรงหน้าขณะที่ช่วยเอื้อมหยิบแฟ้มให้ แม้ความเป็นจริงแล้วมันเจ็บไม่ใช่น้อยทีเดียว  ระดับสายตาของเธอพอดีกับป้ายห้อยคอบริษัทปาร์ค คอร์ปอเรชั่นของอีกฝ่ายที่เขียนชื่อไว้ว่า จอน จองอา  “ ว่าแต่เธอล่ะ ไม่เป็นไรใช่มั้ย? ”

 

แค่อุบัติการณ์จากเด็กฝึกงานซุ่มซ่ามคนหนึ่งก็เท่านั้น

 

“ ค..ค่ะ ”

หากแต่ทันทีที่ฝ่ายเด็กสาวเงยหน้าขึ้นมา นัยน์ตากลมโตที่เปี่ยมด้วยความหวาดหวั่นนั้นก็พลันทำให้ยุนจีชะงักนิ่ง

เหมือนว่าการทำงานของเวลาถูกหยุดเอาไว้ ณ วินาทีนั้น

 

“ จองฮวา..

 

ม่านความทรงจำถูกกระชากออก ความถวิลหาท้นทะลัก องค์ประกอบบนใบหน้านั้นแทบไม่ต่างจากคนที่เคยเป็นเจ้าของหัวใจของเธอเมื่อห้าปีที่แล้ว ยุนจีเข้าใจในขณะนั้นเองว่าอิทธิพลของความรักเหลือล้นเพียงใด ไม่ว่าจะพยายามวิ่งหนีให้พ้นจากวังวนของมันสักเท่าไหร่ แรงดึงดูดนั่นทรงพลังมากพอที่จะทำให้เธอกลับไปยังจุดเริ่มต้นเสมอ

 

“ อ..อะไรนะคะ? ”

 

แต่อนิจจา.. ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะจำเธอไม่ได้เลยแม้เพียงนิด

.

.

 

 

            ตลอดชั่วเวลาที่ผ่านมา มินยุนจีคิดเสมอว่าชีวิตของเธอนั้นมันไม่เคยเป็นของเธอเลยสักครั้ง การเป็นทายาทหนึ่งเดียวของตระกูลอันมีอิทธิพลทำให้ของชีวิตเธอถูกขีดเขียนเส้นทางเอาไว้นับตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก ปั้นแต่งให้มีความสมบูรณ์พร้อม ไม่ว่าสิ่งใดที่เธอต้องการก็สามารถนำมากองไว้ตรงหน้าได้อย่างง่ายดาย

 

ทุกอย่าง.. ยกเว้นอิสรภาพ

แม้กระทั่งในเรื่องของความรัก เธอยังไม่มีสิทธิ์แม้จะใช้การตัดสินใจของตนเอง

 

            พ่อของเธอบอกเสมอว่าผู้หญิงฉลาดควรคู่กับผู้ชายที่มีอำนาจ นั่นทำให้นายใหญ่ตระกูลมินจับยุนจีหมั้นหมายกับคนที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่อายุยังน้อย หากแต่ไม่ว่าจะพยายามก่อความใกล้ชิดเพียงใด สิ่งที่เธอรู้สึกต่ออีกฝ่ายนั้นมีเพียงความว่างเปล่า ไม่ใช่ความพิเศษอย่างที่เคยคาดหวัง มันไม่อาจเทียบเคียงความรักได้เลย

 

และไม่ได้มีเพียงแค่เธอที่รู้สึกเช่นนั้น อีกฝ่ายก็ไม่ต่างกันนัก

ทั้งเขาและเธอต่างเป็นเพียงสมบัติที่ถูกปั้นแต่งชิ้นหนึ่งของวงศ์ตระกูล

 

            การฝืนหัวใจตนเองให้รักใครสักคนนั้นดูจะเป็นเรื่องยากลำบากไม่ต่างกันกับการหักห้ามไม่ให้ใจรัก  แม้จะลองพยายามกับชายอื่นที่ไม่ใช่คู่หมั้นของเธอบ้าง ทว่ามันไม่เคยได้ผลเลยสักครั้ง ยุนจีคิดว่าเธอควรจะยอมรับได้เสียทีว่าหัวใจของเธออาจไม่ได้มีไว้เพื่อรักใคร คนอย่างเธอมันควรคู่กับความเดียวดายไปจนวันตาย

 

 

แต่แล้ววันหนึ่งหัวใจเดียวดายก็ได้พบกับคำตอบ..

 

            ยุนจีค้นพบว่าแท้จริงเธอไม่ต้องการอ้อมแขนแข็งแกร่งของชายคนใด ไม่ต้องการการปรนนิบัติอย่างเจ้าหญิง เธอต้องการเพียงเรียวปากนิ่มหยุ่นกับทะเลดวงดาวในนัยน์ตาที่ชวนมองตลอดวัน แทบไม่ต้องใช้ความพยายามเลยสักนิด เธอร่วงหล่นในห้วงความรักอย่างง่ายดาย

 

ผู้หญิงฉลาดไม่จำเป็นต้องควรคู่กับผู้ชายที่มีอำนาจ

ในเมื่อเธอมีทั้งสองอย่างนั่นอยู่แล้ว เธอต้องการเพียงความรักที่ควรมีสิทธิ์จะเลือกด้วยตัวเอง

 

 

“ ฉันไม่มีลูกผิดเพศอย่างเธอ!

 

“ ยุนจีก็ไม่ต้องการคนอย่างคุณมาเป็นพ่อเหมือนกัน!

 

 

คำตอบของหัวใจที่มีชื่อว่าจองฮวา..

 

 

“ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน ”

 

“ คุณจะทำอะไร ”

 

 

ความรักที่เคยแย้มบานและร่วงโรยลงอย่างรวดเร็วเมื่อห้าปีที่แล้ว

.

.

 

“ เป็นไปไม่ได้..

 

ก้านบุหรี่ที่คืบอยู่ระหว่างนิ้วสั่นสะท้านเล็กน้อย  ควันจางกลิ่นหวานฉุนลอยละล่องในอากาศ สายตาหญิงสาวละจากมันมองยังอีกฝ่าย  “ แต่มันเป็นไปแล้ว ฉันเห็นเธอจริงๆ ”

 

เมื่อพบว่าปาร์คจีมินยังคงเอาแต่จับจ้องกาแฟในถ้วยกระเบื้อง เธอจึงจำต้องยืนยันซ้ำอีกครั้งหนึ่ง “ เชื่อฉันสิ เธอเหมือนจองฮวามาก ไม่ผิดแน่ ”

 

“ ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อเธอ แต่ว่า.. ” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมา เม้มปากแน่น ความคลางแคลงใจเปี่ยมล้นในแววตา  “ เราก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าจองฮวาตายไปแล้ว

 

            จีมินรู้จักยุนจีมาครึ่งค่อนชีวิตในฐานะคู่หมั้นที่ทางผู้ใหญ่จัดหาไว้ให้ และแม้จะเป็นทายาทเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลมาเฟีย นั่นไม่ได้แปลว่าเธอจะถูกเลี้ยงมาแบบไข่ในหินจนทำอะไรไม่เป็น เธอไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่พยายามเข้าหาเขาเพียงเพื่อหวังผลประโยชน์  ท่าทีสุขุมเย็นเยือก ไม่มีคำหวานป้อยอ ไม่มีจริตจะก้านที่เกินควรชวนให้รำคาญใจ

 

น่าเสียดายที่พวกเขาทั้งคู่ต่างไม่ได้มีใจให้กันเลยสักนิด

แหวนหมั้นที่ประดับบนนิ้วนางข้างซ้ายของเราทั้งสองไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งใดเลย

 

จีมินไม่สามารถคิดเกินเลยกับคนตรงหน้าได้ เห็นเป็นเพียงแค่คู่หมั้นหมายในนามก็เท่านั้น และก็รู้ดีอยู่เต็มอกว่าอีกฝ่ายนั้นได้มอบหัวใจให้กับใครอื่นไปแล้ว ใครคนนั้นที่สามารถละลายกำแพงน้ำแข็งในใจของเธอจนสิ้นซาก

 

“ ฉันรู้ ตอนนั้นฉันก็เห็นเหมือนกับนาย ” ที่สะพานนั่น ที่แห่งนั้นที่เธอไม่อยากไปเยี่ยมเยือนอีกเลยชั่วชีวิต

 

คนเดียวที่ทำให้ประกายในนัยน์ตาเรียวรีแข็งกร้าวคู่นั้นหวั่นวูบสะท้านสะเทือน

 

“ เอาล่ะยุนจี ” ชายหนุ่มถอนหายใจพรืดยาว  “ ฉันจะสืบประวัติเด็กฝึกงานที่ชื่อจองอาอะไรนั่นให้ โอเคมั้ย? ”

.

.

 

            ประกายตาหมองหม่นจับจดความเวิ้งว้างเบื้องล่าง  ริ้วแดดแทรกผ่านม่านเมฆช่วงเวลาโพล้เพล้กระทบกับระลอกคลื่นที่หมุนเกลียวตามแรงลมชวนให้คาดนึกความล้ำลึกของมวลน้ำมหาศาลข้างใต้  เรียวมือจับขอบราวเหล็กแน่น มันจะเย็นเยียบสักเพียงใด มันจะอึดอัดทรมานสักแค่ไหน

 

มากเท่าไหร่ที่จองฮวาเคยรู้สึก..

 

บางครั้งบางที.. สิ่งที่ยุนจีเคยคิดก็อาจจะเป็นเรื่องจริง คนอย่างเธอนั้นควรคู่กับความเดียวดาย

            เธอไม่หลงเหลือใครในชีวิตอีกแล้ว คนในครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวอย่างพ่อของเธอก็เสียไปหลังจากจองฮวาเพียงไม่นาน ทว่านั่นไม่สำคัญนักหรอก กรงที่คุมขังเธอมาตลอดชีวิตนั้นได้ถูกทุบทำลายลงไปแล้ว เธอได้รับอิสรภาพโดยสมบูรณ์

 

ทว่าการสูญเสียจองฮวากลับกลายเป็นเรื่องที่สะท้านสะเทือนใจยิ่งกว่านั้น

 

            ภาพในอดีตซ้อนทับเข้ามา  วันนั้นพายุโหมกระหน่ำ สายฝนพร่างพรมจนโชกชุ่มเสียครึ่งค่อนเมือง วินาทีที่คนรักของเธอตัดสินใจกระโดดลงจากสะพานดิ่งสู่ความตายเบื้องล่างนั้นยังคงเป็นภาพที่ตรึงติดแน่นในความทรงจำ ยุนจีไม่อาจช่วยอีกฝ่ายได้ทันเวลา ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไป

 

เร็วเกินจะยอมรับในความสูญเสียได้ เร็วเกินไปที่จะต้องทนอยู่กับความเดียวดายอีกครั้ง

 

 

“ ช่วยด้วย! ยุนจี ช่วยฉันด้วย!

 

มันเป็นเพราะเธอเองที่ทำให้ชีวิตของจองฮวาต้องมาเจออะไรแบบนี้

ถ้าหากว่าเธอไม่พยายามเอาชนะผู้เป็นพ่อแล้วปล่อยให้ฝ่ายนั้นควบคุมชีวิตของเธออย่างที่เคยเป็นมาตลอด

 

“ ขอร้อง ย..อย่าทำ ”

 

ความรักของยุนจีพังพินาศเพราะตัวของเธอเอง

 

ค่ำคืนนั้นยุนจีมีเสียงสะอื้นของตนเองเป็นเสียงกล่อมนอน

เป็นครั้งที่สามที่เธอร้องไห้นับตั้งแต่เธอเสียจองฮวาไป

.

.

 

 

            แสงไฟสลัวคละเคล้ากับจังหวะดนตรีเนิบช้าทำให้รสชาติแอลกอฮอล์ขื่นขมขึ้นอีกหลายเท่าตัว  โลกของยุนจีหลงเหลือเพียงพื้นที่เล็กน้อยของเคาน์เตอร์บาร์  ผู้คนมากมายกำลังแนบกายที่กลางฟลอร์  บางส่วนนั่งโต๊ะกันเป็นกลุ่ม บางส่วนก็เป็นเหมือนเธอ ..ปลีกแยกออกมาสร้างพื้นที่ของตนเองเพียงลำพัง

 

ถ้าหากความรักนั้นทรงอิทธิพล ความคิดถึงในรักที่ไม่มีอยู่แล้วก็อาจจะรุนแรงมากกว่าหลายขุมทีเดียว

 

            ความเพียรพยายามตลอดหลายปีของยุนจีนั้นไร้ค่า เศษซากความรักแหลกเละที่เธอตั้งใจกวาดเก็บไว้ใต้พื้นพรมแห่งอดีตนั้นกำลังกรีดบาดห้วงหัวใจจนขาดเป็นแล่นริ้ว เธอกลับกลายเป็นมินยุนจีคนเดิมที่เคยเศร้าโศกกับการสูญเสียคนรักจนเกือบไม่อยากมีชีวิตต่อไป

 

ปูซาน อายุ 21 ปี พ่อแม่เสียหมดแล้ว มีพี่ชายหนึ่งคน

 

การปรากฏตัวของจองอานั้นเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ที่มาของฝ่ายนั้นก็แทบไม่แตกต่างจากจองฮวาเลยสักนิด

           

หากแต่ความรักครั้งแรกและครั้งเดียวที่ผ่านมาทำให้เธอหวาดกลัว.. หวาดกลัวกับการเริ่มต้นความรักอีกครั้งหนึ่ง หวาดกลัวความเจ็บปวด หวาดกลัวการจากลา เพราะในตอนนั้นจองฮวาถูกรุมโทรมต่อหน้าต่อตาโดยลูกน้องและพ่อของเธอเอง

 

แม้ปีศาจร้ายตนนั้นที่มีสายเลือดเดียวกับเธอจะตายจากไปแล้ว ทว่าสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นมันยังคงอยู่ ..สิ่งที่เรียกว่าความทรงจำ

มันตามหลอนหลอกเป็นเงาติดตัว พันธนาการแล้วทรมานกันอย่างหนักจนเคลื่อนหนีไปไม่ได้

แม้เธอจะยืมมือจีมินมาช่วยฆ่าคนพวกนั้นจนไม่เหลือรอดแม้สักคน รวมกระทั่งพ่อของเธอเองด้วย หากแต่ยุนจีไม่สามารถฆ่าสิ่งที่คงค้างคาในใจนี่ทิ้งไปได้เลย

 

การกำจัดสาเหตุที่ทุบทำลายใจเป็นคนละเรื่องกันกับการเยียวยาบาดแผล

 

 

ท่ามกลางรสนุ่มลึกของเครื่องดื่มที่บรรจงละลายสติจนบางเบา เรือนกายเคยคุ้นที่นั่งลงข้างกันทำให้ยุนจีหวนคืนสู่ความเป็นจริงตรงหน้า  “ เราเจอกันอีกแล้วนะคะ ” น้ำเสียงที่ทักทายกันนั้นยานคางเล็กน้อย อีกฝ่ายคลี่รอยยิ้มจนเห็นฟันกระต่าย ผิวแก้มเนียนเรื่อแดงเพราะฤทธิ์น้ำเมา

 

ซ้อนทับกับคนในอดีตที่เธอกำลังครุ่นคิดถึงจนแทบแยกไม่ออก เหมือนมาก.. เหมือนเกินไป.. จองอาคนนี้กับจองฮวาของเธอเมื่อห้าปีที่แล้วแทบจะเป็นคนเดียวกัน

 

“ คุณยุนจี ”

 

วินาทีที่อีกฝ่ายกะพริบตา หมู่ดาวภายในนั้นเริงระบำ ยุนจีกวาดเอาความหวาดหวั่นที่เคยมีทิ้งไปจนหมดสิ้น ห้วงความคิดแปรปรวนจนประมวลผลได้ลำบาก ความยับยั้งชั่งใจถูกพังทลายลง เธอเคลื่อนขยับเข้าใกล้เด็กสาว ฝ่ามือแตะลงบนความคดโค้งของช่วงเอว  “ จองอา..

 

และเมื่อพบว่าคนตรงหน้าไร้ซึ่งท่าทีปฏิเสธ จึงค่อยทาบทับริมฝีปากจนแนบชิด บดเบียดตามความโค้งนิ่มอย่างละเมียดละมุน นวลนุ่มเสียจนคนอายุน้อยกว่าครางเสียงเครือผะแผ่วในลำคอ ลิปสติกที่อาบเคลือบเลือนเลอะ “ ค..คุณ คุณคะ ”

 

“ ชู่วว์  คืนนี้หนูมาเป็นเด็กดีของพี่นะคะ ”

 

เรียวมือเคลื่อนหายใต้เนื้อผ้าของกระโปรง ลูบวนฟ่อนเฟ้นเนื้อเนียน ความร้อนรุ่มท้นทะลัก ขณะที่ริมฝีปากกดจูบตามลำคอแล้วเลื่อนมายังใบหู  “ ไปหาที่อื่นสงบๆกันเถอะ ”

.

.

 

            อาการปวดหนึบในศีรษะเป็นสิ่งแรกที่ยุนจีรู้สึกหลังจากตื่นขึ้นมา ตัวเลขบนนาฬิกาดิจิตอลข้างเตียงนั้นบ่งบอกเวลาเกือบเที่ยงวัน หญิงสาวบรรจงยันกายลุกขึ้น ดึงผ้าห่มมาคลุมเรือนร่างเปลือยเปล่า หวนนึกถึงสัมผัสวาบหวามที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงหันมองพื้นที่เตียงด้านข้าง

หากแต่แทนที่จะพบกับร่างของใครอีกคน มันกลับกลายเป็นความว่างเปล่า ผ้าปูเรียบตึงราวกับว่าไม่เคยมีคนมาใช้งานในก่อนหน้านั้น

 

เป็นไปไม่ได้

 

ความว่างโหวงเริ่มก่อตัวจนเป็นหลุมลึกในใจ ท่วมท้นด้วยความหวาดหวั่นและตื่นตระหนก ยุนจียังไม่พร้อมที่จะจากลาความรักไปอีกครั้ง เธอเพิ่งอาจหาญพอที่จะกล้าเสี่ยงเริ่มต้นกับมัน อย่าพรากกันไปอีกเลย

 

สายตากวาดมองจนพบกับกระดาษแผ่นเล็กที่ถูกเขียนบางอย่างทิ้งไว้ เธอรีบคว้ามันมาทันทีด้วยฝ่ามือสั่นเทา ข้อความที่ปรากฏในนั้นบอกเพียงว่า เวลาของฉันมีแค่นี้ ขอบคุณและขอโทษสำหรับทุกอย่าง อย่าโทษตัวเองอีกเลย

 

และชื่อที่ลงท้ายทำให้เธอกำกระดาษแผ่นนั้นแน่นจนยับยู่ น้ำตาเอ่อรื้นจนร่วงหยดลงบนผ้าปูที่นอน

 

ยังรักยุนจีเหมือนเดิม

– จองฮวา

 

THE END

_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _

 

TALK TO WRITER:

ลงฟิคดึกอีกแล้ว ๕๕๕๕ *สะลึมสะลือ*

จริงๆนี่คือหัวข้อ urban fantasy ในยุนกุกวีคค่ะ แบบถ้าจองอาย้อนเวลามารักกับยุนจีได้อีกครั้งในเวลาสั้นๆนี่น้องจะมามั้ยไรงี้อะค่ะ แต่วีคนั้นเรายุ่งมาก ไม่ว่างเขียนฟิคใดๆเลย จะอ่านก็ยังดองอยู่หลายเรื่องเลยค่ะฮืออออ

 

*ดิททอล์ค โอเคค่ะมาแล้ว ๕๕๕ เรารู้สึกว่าฟิคนี้ภาษามันทื่อมันรวบรัดไปหน่อย จริงๆมันค่อนข้างเป็นงานร้อนค่ะ ต้องการลงให้ทันวันเกิดคุณยุนกิ ฮืออออ ถ้าใครสนใจติเพื่อก่อหรืออะไรยังไงก็บอกได้ค่ะ

 

ตามแท็กฟิค #kwlfic เช่นเดิมนะคะ 😀