Title: We shoot the moon and miss completely.
Pairing: Jackson Wang/Mark Tuan
A/N: มันคือฟิคแปลงจากคู่ฮอว์คซิลเวอร์น่ะค่ะ ๕๕๕
We shoot the moon and miss completely.
มันเป็นความสัมพันธ์ที่ไร้ทางออก..
คล้ายกับการว่ายวนในเวิ้งน้ำกว้างใหญ่ หันไปทางใดก็ไม่อาจเจอจุดสิ้นสุด ระลอกคลื่นซัดสาดเข้าหาครั้งแล้วครั้งเล่าจนหมดแรงจะเคลื่อนไหวต่อ จำยอมปล่อยร่างร่วงหล่นสู่อ้อมกอดของมวลน้ำเย็นเฉียบ ดำดิ่งล้ำลึก ทว่าไร้ซึ่งความอึดอัดทรมาน ไม่จำเป็นต้องตะเกียกตะกายกลับขึ้นไป
เป็นการจมจ่อมที่ไม่ได้เกิดกับเขาเพียงลำพัง มีสัมผัสมือจากใครอีกคนทาบทับ เกาะเกี่ยวกันและกันแนบแน่น ถลาลึกลงพร้อมกัน และเราก็ต่างยินยอมให้เป็นเช่นนั้น ทั้งที่รู้ว่าสุดท้ายแล้ว.. เราจะต่างหลงลืมซึ่งความจัดจ้าของแสงสว่างเบื้องบนนั่น
เรียวมือที่กอบกุมกันไว้ในตอนนี้..
แสงจากภายนอกลอดผ่านช่องว่างของมู่ลี่ พาดเป็นริ้วลายทางบนสองมือของคนทั้งคู่ มาร์คเพ่งพิศมัน ปลายนิ้วลากผ่านลายเส้นบนฝ่ามือกร้านแกร่งของอดีตหนุ่มนักกีฬาฟันดาบแห่งเอเชีย ฝ่ามือที่เคยเขานึกสงสัยว่าจับอาวุธอย่างหนักแน่นเพียงใดในแต่ละการแข่งขันที่ผ่านมานั่น
มือที่ไม่เคยฉุดดึงให้เขาโผล่พ้นผิวน้ำ หากแต่มันก็จับแน่นไม่เคยยอมให้เขาจมจ่อมอย่างโดดเดี่ยว
“ คิดอะไรอยู่ล่ะ? หื้ม? ” ฝ่ามือนั่นตะครุบนิ้วที่ลากวนแน่นและรวดเร็วราวกับปลาฮุบเหยื่อ ดึงลากมาแนบอก “ คิดถึงใครที่ไม่ใช่ผมอยู่รึไง? ”
“ เปล่า.. ” เขาเนี่ยนะหรือจะเป็นฝ่ายหนีจาก เขาสิควรจะนึกกลัว ตำแหน่งนั้นควรคู่แก่อีกคนมากกว่าเสียอีก
“ มีนายแล้วฉันจะไปไหนได้ ”
เขาทอดน้ำเสียงออดอ้อนซึ่งใช้ได้ผลดีกับแจ็คสันเสมอ ขืนเรียวมือออกแล้วผลักร่างอีกฝ่ายให้เอนราบกับลานเตียง ประทับจูบว่องไวปานงูฉก สองกายเปล่าเปลือยบดเบียดแนบชิด ความร้อนรุ่มทะลักล้นอย่างรุนแรง
สองมือฟ้อนเฟ้นทั่วเรือนกายหนุ่มฮ่องกง ปัดป่ายตามมัดกล้ามสมบูรณ์และผิวเนื้อ.. มาร์คหลงใหลจะสัมผัสมันอย่างไม่รู้เบื่อ ความอุ่นชื้นแลบเลียลงมาตามลำคอ จนมาหยุดยังแผ่นอกด้านซ้าย เสียงชีพจรที่เต้นตุบภายในนั้นดังให้ได้ยิน ..หัวใจที่ไม่รู้ว่ามันจะเป็นของเขาได้เมื่อไหร่กัน
แจ็คสันลุกขึ้น โถมกายใส่ตัวเขา ในชั่ววูบนั้นเองที่ระยะห่างระหว่างเราทั้งสองเหลือเพียงน้อยนิด นัยน์ตาคู่นั้นสบมองลึกซึ้งราวจะจดจำทุกอณูบนใบหน้าของเขาเอาไว้ “ อย่าให้รู้ว่าไปไหนแล้วกัน ” ความหนักแน่นในน้ำเสียงนั่นคล้ายตะปูที่ตอกลงตรึงไว้ให้อยู่ในคำสั่งนั้น
สัมผัสนุ่มหยุ่นกดแนบลงตรงหว่างคิ้ว เลื่อนลงมายังเปลือกตา “ Gosh, Your skin tastes so good.” ลากผ่านปลายจมูกและผิวแก้ม แช่มช้าราวจังหวะเยื้องกรายของแมวย่อง “Mine..” แล้วแตะค้างที่บริเวณเนินโค้งของเรียวปาก
เป็นความสัมพันธ์ที่คล้ายกับเส้นใยบางเบา..
ทว่ามันร้อยรัดมัดตรึงจนแน่นเหนียว ไม่เคยคาดนึกถึงว่ามันจะส่งผลต่อเรามากเพียงใด รู้ตัวอีกที.. เพียงแค่เขยื้อนกาย เส้นใยเหล่านั้นก็กรีดบาดจนเป็นแผลเหวอะหวะเสียแล้ว ..อยากตัดจากมันใจจะขาด แต่ก็กลัวว่าตนเองจะขาดใจลงเสียก่อน
ความพยายามของเขากลายเป็นเพียงใบมีดทื่อๆ..
“Yours..”
เขากระซิบตอบก่อนจะยกยิ้ม จูบนั่นเลาะเล็มตามความโค้งนุ่ม บรรจงละเลียดทั่วทุกอณูพื้นที่อย่างละเมียดละมุน ราวจะกลั่นแกล้งกัน.. รสจูบเนิบช้าทว่าหนักแน่นในความนุ่มนวลทำเอามาร์คทรมานแทบคลั่งตาย “ อื้อออ.. หะ.. ” เขาต้องการมากกว่านี้ และอยากให้มันรวดเร็วมากกว่านี้..
เสียงวัตถุสั่นครืดคราดไม่ใกล้ไม่ไกล หากแต่ในเวลานี้แล้ว ใครเล่าจะสนใจว่ามีคนติดต่อเข้ามากัน ห้วงความคิดของเขามีเพียงแจ็คสัน หวัง.. มีเพียงความร้อนผะผ่าวที่แผ่ซ่าน.. มีเพียงอ้อมกอดที่โอบล้อมกันและกัน
“ ม.. ไม่รับหน่อยเหรอ? ” น้ำเสียงทั้งหอบกระสันและแหบพร่า บอกถึงกามารมณ์ที่เดือดพล่านภายใน
“ ช่างสิ ”
การสั่นประท้วงจากเจ้าเครื่องมือสื่อสารดูจะไม่ได้รับความสนใจจากคนทั้งคู่ในครั้งแรก ทว่าครั้งที่มันกลับได้ผลอย่างดียิ่ง หน้าจอสว่างวาบปรากฏภาพของใครคนหนึ่ง “ จ..แจ็คสัน.. เดี๋ยว.. ” ความอุ่นชื้นนั่นยังคงรุกไล่อย่างตะกรุมตะกราม “หยุดก่อน..” แรงขัดขืนหนักแน่นเสียจนจำต้องหยุดการกระทำ
“ นั่นคนของนาย.. ”
คนอายุน้อยกว่าพลันชะงักกึก คิ้วขมวดเป็นปมแน่นบนใบหน้าเคร่งขรึมคล้ายกับกำลังเจอภารกิจเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย.. ท้ายที่สุดจึงตัดสินใจผละออกห่าง แจ็คสันตรงเข้าคว้าโทรศัพท์มือถือ หันมองเขา ก่อนจะแตะนิ้วที่ริมฝีปากเชิงให้สัญญาณว่าอย่าส่งเสียงใดๆ
ซึ่งมันไม่จำเป็นเลยสักนิด..
เขาพลิกร่าง ตะแคงหันเข้าหาผนัง สบมองความมืดทึบที่ฉาบบนนั้น เสียงชีพจรที่สั่นระรัวของตนเองดังก้องสะท้อนในโสต รู้สึกวูบโหวงเคว้งคว้างคล้ายชายฝั่งที่ถูกคลื่นซัดสาดและพัดพาเอามวลเม็ดทรายทั้งหมดจนสิ้น กลายเป็นหลุมดำว่างเปล่า
แจ็คสันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลย.. มาร์ครู้ตัวดีมาตลอดว่าควรจะต้องปฏิบัติอย่างไร.. ต้องซ่อนเร้นในเงามืด ถักทอความสัมพันธ์บิดเบี้ยวผิดบาปนี้อย่างเงียบเชียบที่สุด
รู้ดีอยู่แล้วและไม่จำเป็นต้องตอกย้ำซ้ำเติม..
“ ฮยอง.. ”
“ ไปซะ ”
“ ไม่เอาหน่า— ”
“ ฉันหมดอารมณ์แล้ว ”
มันไร้เหตุผลที่อีกคนจะต้องอยู่ต่อ..
แม้แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาที่เป็นอยู่ในตอนนี้ยังไม่อาจหานิยามได้ด้วยซ้ำ มีเพียงแค่เรื่องพรรค์นี้ที่ยังเหนี่ยวรั้งกันและกันเอาไว้ มันคือความรักหรือเปล่าก็ไม่อาจแน่ใจ และต่อให้นี่คือความรัก.. ก็นับเป็นรักที่พ่วงมาด้วยความเจ็บปวดเหลือล้นทีเดียว
“ นายควรจะกลับไป ” เสียงของเขาสั่นพร่า.. สั่นเสียจนตะกอนความเศร้าหมองในห้วงหัวใจลอยคละคลุ้ง ยากเย็นเหลือเกินที่จะบอกให้ตนเองนิ่งเฉยได้ ลำคอแสบร้อนด้วยก้อนสะอื้น ความเจ็บหน่วงกัดกินในอก
จะโทษใครได้ในเมื่อเขาไม่เคยอาจหาญจะทำให้มันจบสิ้นอย่างจริงจังเสียที
“ อย่าลืมสิว่านายเลือกเธอ ”
“ อย่า.. อี้เอิน ” น้ำเสียงนวลนุ่มคุ้นเคยเอ่ยชื่อเขา รู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าไปจูบ หากแต่เปลี่ยนที่หมายจากเรียวปากเป็นแกนกลางหัวใจ “ อย่าทำแบบนี้.. ”
“ อย่าไปจากผม.. ได้โปรด.. ”
..และแล้วก็เป็นแบบนี้จนได้..
“ ไม่รักผมแล้วเหรอ? ”
เขาหลับตาแน่น หยาดน้ำอุ่นร้อนหยดลงมาเป็นทางยาวจนผิวแก้มเปียกชื้น แรงยวบบนเตียงจากน้ำหนักของใครอีกคนที่กดทับลงมาค่อยคืบคลานเข้าใกล้ แพนิ้วหยอกล้อกับกลุ่มผมสีซีดจาง สัมผัสโค้งนุ่มแนบตรงขมับ การกระทำนั้นช่างอ่อนโยน ทว่าแรงกำลังมันล้นเหลือ พังทลายความยับยั้งชั่งใจจนป่นปี้
..เขาแพ้ ..แพ้อีกแล้ว..
“ ร..รักสิ ”
น่าแปลกที่ต่อให้จะสามารถแยกแยะได้ว่าอะไรถูกผิด แต่ก็เลือกจะกระทำไม่ได้เสียอย่างนั้น
“ ฉัน.. รักนาย ”
ก็เพราะความรักทำให้คนพ่ายแพ้..
ไม่ใช่ว่าจะโง่งมจนเข้าหาความมืดบอด เขารู้ถึงผลลัพธ์อยู่แล้วอย่างดีว่าจะต้องหลงวนอยู่ในนั้น แต่ก็ยังเลือกที่จะหลีกหนีจากแสงสว่าง เหมือนกลืนกินยาพิษร้ายกาจทั้งที่กระจ่างชัดอยู่ว่ามันจะนำพาเขาสู่ความตาย ยังนึกจินตนาการว่ารสชาติของมันหวานล้ำลึก
ทั้งที่พิษของมันกัดกร่อนหัวใจจนกลายเป็นเศษเสี้ยวรูปร่างพิกลพิการไปเสียแล้ว
แล้วเขาก็กลับมายังจุดเริ่มต้นของความเจ็บปวด รอการขาดสะบั้นครั้งต่อไป
THE END
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
TALK TO WRITER:
แค่นี้ก็หลงคู่นี้จนไม่รู้จะหลงยังไงแล้วค่ะ orz..
จริงๆอยากใส่อะไรไปมากกว่านี้เยอะๆนะคะ แต่แบบนั้นคงได้ยกเครื่องเขียนเรื่องใหม่ไปเลยดีกว่า ๕๕๕ อีกอย่างที่เอาอันนี้มาแปลงเพราะไม่ค่อยเจอคู่นี้แนวแองส์ๆเลย เจอแต่แนวฟลัฟๆอ่ะค่ะ (ไม่ใช่ว่าฟลัฟไม่ดีแต่ดันชอบคู่นี้กับความแองส์มากกว่า ๕๕๕)
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ 😀