Title: In the memory of our sweet vivid memories
Pairing: Park Jimin/Kim Namjoon (AU – Behind the painting)
Genre: Angst, Mild fluff
Note: เนื่องจากช่วงเวลาในเรื่องข้างหลังภาพเป็นช่วงที่เกาหลีตกเป็นอาณานิคมของประเทศญี่ปุ่น และสองประเทศเขาก็บาดหมางกันอยู่นานจนไม่รู้ว่าจะลงไทม์ไลน์ไหนดี และไม่อยากเปลี่ยนเป็นโซนยุโรปเพราะอยากคงโลเคชั่นโทนเอเชียเอาไว้ ก็เลยให้นัมจุนกับจีมินเป็นชาวสยามนะคะ
In the memory of our sweet vivid memories
ความรัก ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในยุคใด หรือสมัยใด
สมหวัง หรือแม้นว่าสิ้นหวัง เหล่านั้นคือสิ่งสุนทรีชั่วนิรันดร์
เจตพลจับจดอยู่กับภาพวาดที่ถูกแขวนไว้มาเป็นระยะหนึ่งแล้ว ภาพของชายสองคนโอบล้อมด้วยความงดงามของธรรมชาติ ถูกแต่งแต้มบนกระดาษแข็งธรรมดา เบื้องหลังของมันคือผนัง หากเมื่อได้เพ่งพิศ ความทรงจำพลันแล่นย้อน นำทางกลับไปทางอดีตที่พ้นผ่าน ครั้งหนึ่งที่มันเคยเกิดขึ้น ทั้งเรื่องราวในภาพ และความรู้สึกที่เคยท้นทะลักในอก
มันเคยเป็นความรักที่ลุกโชนอยู่ข้างใน ร้อนรุ่มเกินจะยับยั้ง
ครั้นเมื่อวันเวลาดำเนินไป และด้วยภารกิจหน้าที่อันต้องรับผิดชอบ หลากหลายสิ่งวุ่นวายที่ต้องเผชิญ ความรู้สึกนั้นจึงถูกหมางเมิน เปลวเพลิงที่ลุกท่วมจึงกลับกลายเป็นเพียงแค่ควันแผ่วจาง เป็นร่องรอยให้ระลึกถึงการมีอยู่ของมันในอดีต
ไม่หลงเหลือสิ่งที่เรียกว่าความรักต่อไปอีกแล้ว
.
.
สถานที่แห่งนี้งดงามราวสวรรค์รังสรรค์ สองข้างทางเรียงรายด้วยต้นไม้ใหญ่ ก้านใบเอนไหวตามแรงลม แสงจันทร์แจ่มกระจ่าง ณ โค้งฟ้า สะท้อนบนผืนน้ำที่กระเพื่อมไหวเป็นระลอกคลื่น เสียงไม้พายกระทบมันเป็นระยะ ก่อเกิดเป็นแรงขับให้ลำเรือเคลื่อนตัวไป
ปลายนิ้วยื่นออกไปสัมผัสกระแสธารเย็นเฉียบครู่หนึ่ง ดวงใจชื้นชุ่มกับความสงบที่ได้รับ
ชีวิตของบุรุษสูงศักดิ์อย่างหม่อมราชวงศ์นทจรถูกตีกรอบเอาไว้อย่างชัดเจน ถูกปั้นแต่งให้เพียบพร้อม เป็นนักปกครองที่น่าเกรงขามและควรค่าแก่การนับถือ ถูกหมั้นหมายกับสตรีที่ใครอื่นต่างเห็นพ้องว่าเหมาะสมพอกัน เขาทำได้เพียงคล้อยตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่ แม้ความสัมพันธ์นี้จะปราศจากซึ่งความรักก็ตาม
ภายใต้ความนิ่งสงบของสรรพสิ่งที่รายล้อม เป็นช่วงเวลาที่เสียงความคิดดังก้องสะท้อนอย่างที่สุด
มันกรีดร้องถึงความแหลกสลายที่ป่นปี้อยู่ภายในหัวใจดวงนี้ ภายในกำแพงตัวตนที่ถูกสร้างออกมาให้มีรูปลักษณ์แข็งแกร่ง
“ เจตพล เธอเคยคิดถึงบ้านบ้างไหม? ”
“ เป็นบางคราวครับ กระผมอยู่ที่นี่มาสามปีกว่า คิดถึงบ้านบ้าง แต่เมื่อนานเข้า ความคิดถึงนั้นก็ชาลงครับ ” เด็กหนุ่มตอบคำถามขณะออกแรงขยับไม้พาย
“ ในเวลาเช่นนี้ ฉันคิดถึงสิ่งที่ฉันรักอย่างที่สุด ”
คิดถึงตัวตนที่ถูกซุกซ่อนไว้ข้างใน คิดถึงความรู้สึกรักที่มิเคยได้สัมผัส
แสนเสียดายกับเส้นทางชีวิตและระยะเวลาที่พ้นผ่าน เมื่อมีกรอบทางสังคมและยศฐานันดรบีบกั้นไว้ จึงยากยิ่งนักที่จะค้นพบความรักอันเกิดจากใจจริง
หัวใจกลายเป็นหลุมลึกมืดดำที่ทำให้ต้องดิ้นรนหาความสุขมาถมเต็ม กลบเกลื่อนความเคว้งคว้างที่ถาโถม
ขณะที่ความเดียวดายกำลังฉาบทาบนผนังหัวใจนั้นเอง เสียงแว่วหวานของบทเพลงจากสตรีผู้หนึ่งก็เรียกความสนใจในให้พ้นจากห้วงคำนึงของตนเอง
“ เพลงเพราะเชียว คงเป็นเพลงรักหวานซึ้งเป็นแน่ หญิงญี่ปุ่นผู้นั้นร้องว่าอะไรหรือเจตพล? ”
“ มันหาใช่เพลงรักหรอกครับคุณท่าน สิ่งที่เธอร้อง พูดถึงการเห็นคุณค่าในตัวเองครับ จะเป็นอะไรก็มิใช่ปัญหา สำคัญอยู่ที่ว่า จงเป็นอย่างดีที่สุด ไม่ว่าเราจะเป็นอะไรก็ตาม ”
คำกล่าวของเด็กหนุ่มสะท้อนในห้วงความคิดของหม่อมราชวงศ์อยู่ครู่ใหญ่ทีเดียว ราวกับถูกพูดออกมาเพื่อตัวเขาเอง ในบางครั้งชีวิตก็เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเลือกเป็นได้ แต่สามารถเลือกจะมีความสุขและเป็นสิ่งนั้นอย่างดีที่สุดได้
“ เป็นเพลงที่มีความหมายดีทีเดียว ”
เสียงไม้พายกระทบผืนน้ำยังดงดำเนินไป สายลมยามค่ำคืนที่โชยพัดก่อความหนาวเหน็บได้แม้จะเป็นในฤดูร้อนก็ตาม พลันนั้นเองที่ลำเรือชะงักการเคลื่อนไหว สร้างความประหลาดใจให้นทจร จนเมื่อพบสาเหตุว่าเด็กหนุ่มที่นั่งฝั่งตรงข้ามนั้นว่างเว้นจากการพายเรือ
“ มีอะไรหรือเจตพล? ”
“ ค่ำนี้อากาศเย็นน่ะครับ ” ถึงจะพูดเช่นนั้น ทว่าสิ่งที่อีกฝ่ายกระทำกลับเป็นการถอดผ้าพันคอออก “ ขอประทานโทษนะครับคุณชาย ” ก่อนจะขออนุญาตให้เขายกเท้าขึ้นมา นทจรสวมใส่เพียงแค่ถุงเท้าบางๆและเกี๊ยะไม้เท่านั้น
รู้ตัวอีกทีผ้าพันคอผืนนั้นก็ถูกคลุมบนฝ่าเท้า “ ทำอะไรน่ะเจตพล เอาผ้าพันคอมาคลุมเท้าฉันทำไม มันไม่ใช่ของคู่ควรกันเลย! ” นทจรร้องด้วยความตระหนก ตั้งใจจะดึงมันออก ทว่าคนอายุน้อยกว่ายังคงยืนยันจะทำอย่างเดิม
“ ขออนุญาตกระผมเป็นผู้ให้ไออุ่นแก่คุณชายในค่ำนี้เถิดครับ ”
ฝ่ามือข้างหนึ่งลูบวนผ่านผืนผ้าให้เกิดความอบอุ่นกับผิวเนื้อ นัยน์ตาของเจตพลสบลึกซึ้งกับสายตาของหม่อมราชวงศ์ แสงจันทร์และมวลหมู่ดาวสะท้อนเป็นประกายภายในนั้น เจือด้วยความรู้สึกบางอย่าง แม้จะมืดสลัวจนไม่อาจมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน ทว่าการกระทำของเด็กหนุ่มในก่อนหน้านี้ก็ได้ร้องบอกทุกอย่าง
“ ฉัน.. ข..ขอบใจ ”
หลุมลึกในหัวใจแห่งนั้นเหมือนถูกถมให้เต็มตื้นขึ้นทีละน้อย
ตลอดชั่วชีวิตที่ต้องแสดงถึงความเป็นผู้นำ ปกครองคนใต้อาณัติ ไม่เคยนึกเลยว่าการได้รับการดูแลจากใครสักคนจะชวนให้อุ่นซ่านไปทั้งดวงใจเช่นนี้
นี่กระมังคือความรู้สึกรักอย่างที่เคยวาดฝันจะได้ค้นพบ จุดเริ่มต้นของมันเป็นอย่างนี้
น่าเสียดายนักที่หลังจากนี้ไป อีกนับหลายปี
ความรักที่ควรเป็นของคู่กลับสถิตย์ในหัวใจของคนหนึ่งเพียงคนเดียวเท่านั้น
THE END
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
TALK TO WRITER:
*โควทต้นฟิคเป็นประโยคจากข้างหลังภาพเวอร์ชั่นอำพล-นาตยาค่ะ
จริงๆที่อยากเขียนคู่นี้เอยูนี้เพราะช่วงวันเกิดนัมจุนที่คุณพัครัวรูปรัวคลิปนั่นมีเพลงรักแท้มีอยู่จริงของพี่บี้เล่นวนมาพอดีค่ะ ก็เลยเกิดภาพคุณหญิงกีรตินัมจุนกับนพพรจีมินขึ้นมาในหัวเลยค่ะ! ๕๕๕ มีเหตุการณ์จากในเวอร์ชั่นละครเวทีด้วย
และด้วยความที่พอเปลี่ยนตัวละครเป็นผู้ชาย ด้วยกรอบสังคมอะเนอะคะ ให้เหมือนคุณหญิงกีรติไปเลยแบบนั้นก็คงไม่ได้ เลยปรับใหม่เป็นแบบนี้ค่ะ มีอะไรติชมได้นะคะ
แท็กฟิค #kwlfic ค่ะ