[Fiction] One Rainy Night (ก๋วยเตี๋ยว/มิน): Chapter II – The Painting

Title: One rainy night

Pairing: ก๋วยเตี๋ยว(เลือดข้นคนจาง)/มิน(โฮมสเตย์)

Genre: Heavy angst, Hurt/Comfort, Fluff

Note:

          Hanahaki-disease คือ อาการของคนที่มีดอกไม้งอกขึ้นมาในปอด เกิดจากรักข้างเดียวหรือรักที่ไม่สมหวัง

          เราจะถือกันว่าน้องเวกัสไม่เคยมีอยู่ในตระกูลจิระอนันต์นะคะ

Chapter II The Painting

 

บางครั้งก๋วยเตี๋ยวก็นึกสงสัยว่ามินมีพลังพิเศษหรือเปล่า

            เขาแวะเวียนมาที่โรงเรียนปทุมปัญญากรบ่อยขึ้นเพราะอยากหามุมถ่ายรูปหลังจากที่ฝ่ายเพื่อนรักร่วมคณะชักชวนมาเป็นตากล้องในงานกีฬาสีของโรงเรียน ซึ่งนั่นเป็นเพียงแค่เหตุผลรอง เหตุผลหลักคือเด็กนักเรียนคนหนึ่งต่างหาก

เย็นย่ำแล้ว แมวจรในคืนฝนตกของเขานั่งอยู่ที่อัฒจรรย์นั่น แสงสีส้มอมแดงจากพระอาทิตย์อัสดงจับสะท้อนบนเรือนผมและผิวหน้า สะกดสายตาของเขาให้ตรึงไว้ที่ภาพนั้นได้เหมือนอย่างที่สะพานไม่มีผิด ณ วินาทีนั้น ก๋วยเตี๋ยวคิดว่านั่นคือพลังพิเศษของมิน

พลังพิเศษที่ส่งผลต่อหัวใจของเขาโดยตรง

 

เขาเห็นมินกำลังขีดเขียนบางอย่างลงบนสมุดสเก็ตช์ภาพที่วางอยู่หน้าตัก

และด้วยความที่อยากรู้จักอีกฝ่ายให้มากกว่าที่เป็นอยู่นี้ ก๋วยเตี๋ยวจึงเดินเข้าไปนั่งข้างกัน เว้นระยะห่างไว้เล็กน้อยเผื่อความเป็นส่วนตัว แต่ก็ใกล้พอที่จะทำให้มินรับรู้ถึงการมาเยือน

 

“ สวัสดีครับพี่ก๋วยเตี๋ยว ” เด็กหนุ่มชะงักมือจากการวาดเขียนมายกไหว้เขา ทำเอาก๋วยเตี๋ยวรับไหว้แทบไม่ทัน

 

“ หวัดดีครับน้องมิน บังเอิญเนอะ ” ก๋วยเตี๋ยวหัวเราะแก้เก้อ การสบตากับมินทำให้เขาประหม่า รู้สึกเหมือนไม่เป็นตัวเองเข้าไปทุกที “ มินชอบวาดรูปเหรอ?

 

“ ก็ผมอยู่ชมรมแปรอักษรนี่ครับ ”

 

ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองดูเป็นไอ้งั่งขนาดนี้มาก่อน เขาไม่น่าโพล่งคำถามนี้ออกไปเลยทั้งที่เห็นอยู่ทนโท่

“ แหะ เออ นั่นสิเนอะ ”

 

            อันที่จริงก๋วยเตี๋ยวเคยเห็นภาพวาดของมินมาก่อนจากแบบรวมผลงานในชมรม และเขาเชื่อว่าชิ้นงานศิลปะคือการถ่ายทอดจิตวิญญาณของผู้สร้างมัน เศษเสี้ยวตัวตนจากคนวาดจะหลุดร่อนลงมาเป็นลายเส้น แต่งแต้มด้วยความคิดและจินตนาการที่ฝ่ายนั้นมีลงไป

            และภาพของมินถ่ายทอดมันออกมาได้อย่างชัดเจนทีเดียว

 

เขาอยากเข้าไปเยือนดินแดนหัวใจแห่งนั้น เข้าไปสำรวจว่าเกิดอะไรขึ้น

เหตุใดพืชพันธุ์ที่ถูกปลูกขึ้นในดินแดนนี้จึงมีรูปร่างหงิกงอ ก้านใบแห้งกรอบ

อยากเข้าไปทดแทนผืนดินแตกระแหงให้ชุ่มชื้นด้วยความรัก

อยากเข้าไปกระชากม่านหมอกมัวหมองที่กั้นแสงแห่งความหวังและความสุขเอาไว้

 

หากแต่ความคิดนั้นของก๋วยเตี๋ยวเป็นอันต้องสะดุดเมื่อพบว่าลายเส้นดินสอของอีกคนนั้นกำลังวาดรูปผู้หญิงคนหนึ่งที่สะพาน

.

.

 

มีหลายจังหวะในชีวิตที่คุณต้องยอมรับเรื่องที่ไม่อยากยอมรับ

 

หนึ่งในนั้นคือเรื่องที่ก๋วยเตี๋ยวต้องยอมรับว่าคนที่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงดินแดนหัวใจของมินมีเพียงพาย

ไม่ใช่ตัวเขาคนนี้

 

            แต่ก๋วยเตี๋ยวเองไม่เคยโกรธมินเลยสักนิด เขาเข้าใจว่าเรื่องของความรู้สึกไม่ใช่อะไรที่จะมาฝืนบังคับกันได้ ก๋วยเตี๋ยวยอมรับในความรู้สึกนี้ มันไม่ง่ายดายเหมือนอย่างที่สมองสั่งการให้ขาก้าวเดิน ถ้ามันเป็นแบบนั้น เขาคงจะสั่งตัวเองให้เลิกรักอีกคน เพราะความรู้สึกของมินคือหนึ่งในสิ่งที่เขาหวงแหนยิ่งกว่าอะไรบนโลก

            อันที่จริงก๋วยเตี๋ยวไม่ได้คาดหวังสถานะคนรักจากมินเลยด้วยซ้ำ ให้เขาเป็นอะไรก็ได้ ความต้องการสูงสุดของเขาคือรอยยิ้มทดแทนสีหน้าหมองหม่นนั่น ไม่ต้องให้หัวใจกันก็ได้

            ทว่าความคิดแสนพระเอกของเขาทำหน้าที่ได้ดีก็ต่อเมื่อฝ่ายนั้นไม่ได้รักใครอื่น ก๋วยเตี๋ยวขอยอมรับแต่โดยดีอีกหนึ่งข้อว่าการที่มินคบกับพี่รหัสของเจ้าตัวที่ชื่อว่าพายนั้นทำให้เสียใจไม่ใช่น้อย แต่นั่นก็ไม่ใช่ความผิดของมินอยู่ดี สิ่งที่เขาต้องมีเพียงแค่เก็บซากเศษหัวใจแล้วประกอบมันขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเอง

ซึ่งถ้ามันเป็นเพียงเท่านั้นก็คงจะดี

การไม่รักตอบของมินกลับทำให้ดอกไม้บ้าบอนั่นงอกขึ้นมา

อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องยอมรับ คือเขาก็รักชีวิตตัวเองไม่แพ้กันหรอก การเติบโตของมันทรมานกันอย่างเชื่องช้า เขาไม่อาจทนทุกข์กับรักข้างเดียวได้มากมายขนาดนั้นจนลืมรักตัวเอง เขาทิ้งครอบครัวที่บอบช้ำกับการสูญเสียและปมขัดแย้งระหว่างกันแล้วสังเวยตัวเองให้กับคนที่ไม่เห็นค่าความรักของเขาเลยไม่ได้

            สาเหตุของดอกไม้ดอกนี้ถูกเก็บไว้เป็นความลับตลอดมา

 

ความรู้สึกเหล่านี้มีตัวเขาเองเป็นคนเริ่มมันขึ้นมา น่าเสียดายที่ถึงแม้จะมีเพียงความปรารถนาดีให้ แต่ความรักกลับร้ายกาจ หมายมาดจะเอาชีวิตเขาเสียได้ นั่นทำให้ก๋วยเตี๋ยวเลือกที่จะเซ็นต์ยอมรับความเสี่ยงจากการผ่าตัด ผลลัพธ์ของมันมีความเป็นไปได้หลากหลาย เขาอาจจะไม่สามารถรักใครได้อีกแล้ว หรืออาจจะลืมทุกอย่างเกี่ยวกับมินไปจนหมดสิ้น

หรืออาจจะรักมินได้อีกครั้ง แล้วอาการเหล่านี้จะกลับมาเป็นซ้ำอีก

แต่ก๋วยเตี๋ยวรู้ว่าถึงอย่างไรก็ไม่มีทางเป็นตัวเลือกสุดท้ายได้อีกแล้ว เขาจะไม่กลับไปเป็นตากล้องให้ชมรมแปรอักษรและแสตนเชียร์ของโรงเรียนปทุมปัญญากรอีก เขาจะไม่ไปเจอหน้ามินอีก ตัดขาดกันไปเอาให้เหมือนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เขาจะได้ไม่ต้องทรมาน และมินก็จะไม่ต้องอึดอัดกับความรักที่เขากองให้ตรงหน้าแต่ไม่อาจรับไว้ได้

มันไม่มีตัวเลือกใดที่เหมาะสมกว่านี้ไปอีกแล้ว

 

ให้ตายเหอะ ไอ้เรื่องที่เคยคิดว่าจะเป็นไปไม่ได้นั่นกลับกลายจะเป็นได้ในขณะนี้

เขาควรแน่วแน่อย่างที่เคยตั้งใจไว้เสียทีว่าจะไม่กลับไปรักมินอีก

 

นั่นเป็นความคิดของก๋วยเตี๋ยวก่อนที่จะมีสายเรียกเข้าหนึ่งดังขึ้นมา มันเป็นหมายเลขโทรศัพท์แปลกหน้า ทว่าเขาก็ยังคงกดรับสาย และกล่าวทักอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ สวัสดีครับ ”

 

“ สวัสดีครับ นี่เบอร์พี่เตี๋ยวใช่มั้ยครับ?

ใจเขาเต้นแรงอัตโนมัติเมื่อได้ยินเสียงเคยคุ้น ก๋วยเตี๋ยวรู้ได้ในทันทีว่าคนปลายสายคือมิน

 

“ อ่าใช่ นี่ก๋วยเตี๋ยวเองครับ นั่นน้องมิน? ใช่มั้ย?

 

“ ใช่ครับพี่เตี๋ยว ”

 

ก๋วยเตี๋ยวหลับตาลง ภาวนาว่าต่อให้มันเป็นการกรอกลับของม้วนภาพยนตร์เรื่องเดิม

แต่เขาไม่อยากให้มันมีตอนจบแบบเดิมเลย

.

.

 

มินไม่อยากกลับไปที่บ้านของตัวเองอีกเลย

เขารู้สึกเหมือนทุกคนเป็นเศษผงน่ารำคาญ เกลียดพี่ชายที่ใช้สายตาดูแคลนกันตลอดเวลา

เกลียดพ่อที่เอาเปรียบ เกลียดแม่ที่บังอาจมาทำลายความไว้ใจที่เขาเคยมี

 

            นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาหาทางติดต่อก๋วยเตี๋ยว โชคดีที่ลี้ยังคงเซฟเบอร์โทรศัพท์ของอีกคนเอาไว้เพราะต้องติดต่อกับคนในชมรมเมื่องานกีฬาสีปีที่แล้ว ทีแรกเขาอยากชวนเจ้าตัวไปที่ร้านขนมสักแห่งเพราะอยากขอบคุณสำหรับก๋วยจั๊บในคืนฝนตกนั่น

            แต่ดูท่าว่าจะนอกเหนือจากสิ่งที่เขาวางแผนไว้เล็กน้อยเนื่องจากพวกเขาทั้งคู่ไม่ได้จบลงที่ร้านขนม หากแต่กลับเป็นที่บ้านของตระกูลจิระอนันต์

 

อันที่จริงมันผิดจากที่คาดนึกเอาไว้มากโขเลยต่างหาก นอกเหนือจากการเป็นแขกประจำบ้าน มินกลับกลายมาเป็นลูกมือช่วยงานในครัว เพราะอากาศของช่วงสี่โมงเย็นวันนี้ค่อนข้างร้อน และก๋วยเตี๋ยวมีธรรมเนียมของตัวเองว่าจะต้องทำแปะก๊วยน้ำมะพร้าวใส่เกล็ดน้ำแข็งให้อาม่าเพื่อคลายร้อน ส่วนร้านขนมเอาไว้เป็นเรื่องของวันหลัง

ก๋วยเตี๋ยวคงคิดว่าเขาจะปฏิเสธ อันที่จริงมินจะไม่มาก็ได้ ทว่าอย่างไรเสียในเมื่อเขาไม่อยากอยู่ท่ามกลางครอบครัวน่ารังเกียจของตัวเองอยู่แล้ว เขาจึงตอบตกลงและอาสาจะช่วย และอีกฝ่ายนั้นก็ประหลาดใจกับคำตกลงของเขามากทีเดียว

 

“ เนื้อมะพร้าวโอเคมั้ยมิน? ”

 

ขั้นตอนการทำในส่วนของมินนั้นไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย เขามีหน้าที่แค่ขูดเนื้อมะพร้าวจากในผลกับช่วยหยิบของเล็กๆน้อยๆก็เท่านั้น ส่วนเรื่องการต้มแปะก๊วยกับน้ำมะพร้าวนั้นก๋วยเตี๋ยวเป็นคนจัดการเอง

“ โอเคครับเชฟ ”

มินแกล้งตอบคนอายุมากกว่าด้วยการเลียนแบบพวกผู้เข้าแข่งขันรายการทำอาหาร และตามมาด้วยเสียงหัวเราะของพวกเขาทั้งคู่

 

“ พี่ว่ามินกวนขึ้นนะเนี่ย ”

 

“ ก่อนหน้านี้ผมไม่กวนพี่แบบนี้บ้างเลยเหรอครับ? ”

 

“ เหอะ อย่าว่าแต่กวนเลย ไม่ค่อยพูดด้วยซ้ำ ” ก๋วยเตี๋ยวหันมาตอบครู่หนึ่งก่อนจะปิดแก๊ส ทัพพีที่ก่อนหน้านั้นใช้เคี่ยวน้ำเชื่อมใบเตยในหม้อถูกเปลี่ยนหน้าที่มาเป็นตักน้ำเชื่อมนี้ขึ้นมาใส่ถ้วย พักไว้ให้เย็นลงเพื่อเตรียมผสมกับน้ำมะพร้าว กลิ่นหวานหอมลอยฟุ้งไปทั้งครัว “ แต่มินก็ไม่ค่อยพูดกับทุกคนนั่นแหละ ”

 

ก๋วยเตี๋ยวอยากเสริมต่อว่า ยกเว้นกับน้องพายแต่ก็ยั้งไว้

 

“ พี่ยังเคยกังวลเลยว่ามินจะมีเพื่อนบ้างรึเปล่า แต่เห็นมินมีน้องลี้แล้วค่อยสบายใจหน่อย ”

 

“ พูดอะไรอย่างนั้นล่ะครับพี่เตี๋ยว ตอนนี้ผมมีพี่แล้วด้วยนี่ไง ”

 

ก๋วยเตี๋ยวเบือนหน้าไปอีกทาง มินยังคงมีพลังพิเศษกับเขาดังเดิม ชายหนุ่มพยายามเก็บซ่อนรอยยิ้มด้วยการใช้ช้อนชาตักน้ำเชื่อมเพื่อชิมว่าความหวานที่ได้นั้นพอดีแล้วหรือไม่

“ งั้นคราวนี้ก็.. อยู่กับพี่ไปนานๆนะ ”

 

มินไม่รู้จะตอบคำร้องขอนั้นอย่างไรดี เขายิ้มเจื่อน มือข้างหนึ่งเขี่ยเนื้อมะพร้าวที่ถูกขูดออกมาแล้วในถ้วยไปมา วินาทีนั้นเขาเกลียดตัวเองที่เผลอไผลเอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง ทั้งที่ตัวเองเป็นเพียงวิญญาณเร่ร่อนที่เข้ามาอาศัยร่างนี้เพียงชั่วคราวก็เท่านั้น

           

เขาไม่อาจกระโจนเข้าหาความตายเพื่อหลบเลี่ยงความเจ็บปวดทั้งหมดเหมือนอย่างที่มินคนเดิมกระทำได้

ถ้าเขาทำแบบนั้น สิ่งที่ได้จะเป็นความว่างเปล่านิจนิรันดร์

เขาจะไม่อาจมีความสุขได้อีกแล้ว เขาจะไม่เจอก๋วยเตี๋ยวอีกแล้ว

ก๋วยเตี๋ยวคือคนเดียวที่ทำให้มินรู้สึกว่าทุกสิ่งที่ตนเองเผชิญนั้นโหดร้ายน้อยลง

.

.

 

อีกหนึ่งพลังพิเศษของมินที่ก๋วยเตี๋ยวเพิ่งค้นพบ

คือการทำให้แปะก๊วยน้ำมะพร้าวที่หากินได้ทั่วไปนั้นมีความอร่อยขึ้นอย่างประหลาด

 

            อันที่จริงมันมีเรื่องให้ประหลาดใจเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเรื่องที่มินตอบตกลงการมาเยือนที่บ้าน มาเป็นลูกมือในครัวให้เขา ถ้าหากย้อนเวลากลับไปก่อนที่ดอกไม้นั่นจะงอกขึ้นมา เรื่องพวกนี้ดูจะไม่มีความเป็นไปได้เลยสักนิด

            สัมผัสเหนียวหนึบของแปะก๊วยที่ผ่านการต้มน้ำเชื่อมและทิ้งไว้ข้ามคืนตามสูตรของอาม่าดูจะไม่เติมเต็มหัวใจของก๋วยเตี๋ยวได้เท่ากับภาพมินเคี้ยวมันเสียเต็มแก้ม น้ำมะพร้าวกลิ่นใบเตยก็ไม่หวานเท่ากับรอยยิ้มของอีกคน เขาอยากจะบอกกับอาม่าว่าคนนี้แหละที่เขาอยากจะร่วมไหว้ฟ้าดินด้วยกัน

            แต่ถ้าอาม่ารู้ว่ามินคือคนที่ทำให้ดอกไม้งอกขึ้นมาในปอดของเขาจนเกือบตาย ก็คงไม่มีทางยอมเป็นแน่ ดังนั้นแล้วความลับจึงยังควรเก็บเป็นความลับไว้ตลอดไป

           

            ก๋วยเตี๋ยวเดินไปที่ชั้นวางหนังสือในห้องนอน มองหาอีกหนึ่งความลับที่เขายังคงเก็บซ่อนไว้อยู่ มันเป็นสมุดสเก็ตช์ภาพของมินที่ถูกส่งมาให้เขาเมื่อเดือนที่แล้ว ก๋วยเตี๋ยวไม่รู้เลยว่าจุดประสงค์ที่ทำให้เขาได้รับมันนั้นคืออะไร เขารู้เพียงว่ามันคือสมุดเล่มเดียวกันกับวันนั้น

ชายหนุ่มพลิกแผ่นกระดาษทีละหน้า เขาไม่เคยเปิดมันดูเลยสักครั้งเพราะเขาเคยไม่อยากนึกถึงมินอีกแล้ว ก่อนจะพบว่าหน้ากระดาษที่วาดรูปผู้หญิง(ซึ่งเขาเข้าใจว่าน่าจะเป็นพาย)ถูกฉีกออกไป และถูกทดแทนด้วยภาพวาดสีน้ำในหน้าถัดไป

 

ภาพนั้นทำให้มุมปากของก๋วยเตี๋ยวยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

เขาจินตนาการภาพขณะที่อีกคนนั้นกำลังรังสรรค์งานศิลปะ ใบหน้าอ่อนเยาว์ที่กำลังขมักเขม่นกับหน้ากระดาษ มือที่จับด้ามพู่กันแต้มปลายแปรงด้วยสีสันไปมา

 

มือคู่นั้นที่ก๋วยเตี๋ยวคิดว่ากำลังจะยึดเอาหัวใจเขาไปอีกครั้งหนึ่ง

 

TBC.

_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _

TALK TO WRITER:

ผ่านไปอีกตอนแล้วค่ะฮว้ากกก แอบไม่มั่นใจตอนนี้เบาๆค่ะ ไม่รู้ว่ามันจะจืดไปรึเปล่า แต่พยายามทำให้หวานขึ้นแล้วด้วยแปะก๊วยน้ำมะพร้าวนะคะ ;w;

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันและแท็กใน #ficlovegrown ได้เหมือนเดิมค่า อิvอิ

 

One thought on “[Fiction] One Rainy Night (ก๋วยเตี๋ยว/มิน): Chapter II – The Painting

  1. ฮือออออ ชอบมากเลยน้องมิว ภาษาสวยเหมือนเดิม สำหรับพี่ พี่ไม่ว่ามันไม่จืดเลยนะ (ห่างไกลจากคำว่าจืดไปมากด้วย) มันอาจจะไม่ได้หวือหวา แต่มันก็มีเสน่ห์ในแบบงานเขียนของน้องอะ เรื่องคำเปรียบเปรยต่างๆคือละมุนมาก
    ตัวละครของมินมันชัดเจนดีนะ ชอบความคิดของก๋วยเตี๋ยวด้วย ถึงจะรักมินมากแค่ไหน แต่ก๋วยเตี๋ยวก็ยังมีความรักตัวเอง สำหรับพี่ พี่รู้สึกว่านี่เป็นความรักที่ดีอะ
    เอาจริงๆแปะก๊วยน่ากินมาก ไม่รู้ว่าน้องมิวเลือกขนมอันนี้มาเขียนเพราะชอบกินรึเปล่า แต่พี่ว่ามันเหมาะกับบรรยากาศตอนนี้ดี ทั้งเรื่องการขูดมะพร้าวเอย การตักน้ำเชื่อม การต้มแปะก๊วย รูปรสกลิ่นเสียงของห้องครัวกับบรรยากาศบ้านอาม่า รวมถึงอารมณ์ความรู้สึกของเตี๋ยวกับมิน มันกลมกล่อมไปหมดเลย ชอบบบบ ฮือออออออออออออออออ

    Liked by 1 person

Leave a comment