Title: Sweetest sadness
Pairing: Erik Lehnsherr/Charles Xavier
Genre: Hopeless love, NC-17
Author: KuNgWoN
Note: Before DoFP
Sweetest sadness
..ในความสัมพันธ์อันเจ็บปวด..
..มักทำให้เราเห็นค่าของความหวานที่แทรกสอดอยู่อย่างชัดเจนเสมอ..
.
.
เสียงฟืนลั่นดังเปรี๊ยะจากปล่องไฟทรงสวยแทรกผ่านความเงียบงันชวนอึดอัดเป็นระยะ กระนั้นเองมันก็ยังดังไม่พอที่จะเรียกร้องให้ใครคนหนึ่งคืนสติสู่ความเป็นจริงเสียที นัยน์ตาสีครามเข้มเหม่อมองกระดานหมากรุกเบื้องหน้าอย่างเลื่อนลอย โหยหาใครอีกคนซึ่งเคยทดแทนความว่างเปล่าบนเก้าอี้นวมตรงนั้น
..ใครคนนั้นที่เขามอบเพียงแต่ความปรารถนาดีให้..
..ทว่ากลับถูกยื่นคืนด้วยการแตกหัก..
ของเหลวภายในหลอดเข็มฉีดยาถูกลำเลียงเข้าสู่กระแสเลือดอย่างเชื่องช้า ขาทั้งสองข้างอันไรความรู้สึกนั้นพร้อมจะกลับใช้งานได้ดังเดิม แม้จะแลกมาด้วยการสูญเสียพลังพิเศษเฉพาะตนไปชั่วขณะ ทว่าชาร์ลส์ยินดีที่จะให้เป็นเช่นนี้ แค่เพียงเสียงความคิดของตนที่กำลังกรีดร้องในห้วงคำนึงนี้ก็เกินจะทนแล้ว
อีริค เลนเชอร์.. พรากเอาทั้งคนที่เขารักดั่งน้องสาว.. ทั้งความหวัง.. ความไว้ใจ.. ชาร์ลส์ทั้งโกรธทั้งเกลียด.. ทว่าความรู้สึกเหล่านั้นมันไม่อาจรุนแรงจนทำให้เขานึกอยากจะทำร้ายอีกฝ่ายขึ้นมาเลย.. ชาร์ลส์จึงเกลียดตัวเองยิ่งกว่า..
แก้ววิสกี้ภายใต้เรียวมือสั่นเทาถูกขว้างไปทางข้างหน้าอย่างรุนแรง กระทบกับบรรดาตัวหมากรุกไม้บนกระดานจนล้มระเนระนาด ก่อนที่แก้วใบนั้นจะกลิ้งไถลแล้วร่วงหล่นตามแรงโน้มถ่วง.. แหลกราญ..
ใบหน้าของชาร์ลส์ เซเวียร์เรียบนิ่ง หากแต่นัยน์ตาสีน้ำทะเลโศกสล.. นี่เป็นสิ่งของเล็กน้อยที่ชวนให้นึกถึงอีริค.. ให้เขาระลึกว่าอย่างน้อยเราก็ต่างเคยมีความทรงจำที่ดีร่วมกันมา.. ซึ่งเขาทำมันพังลงแล้วในตอนนี้
“ ชาร์ลส์.. ”
น้ำเสียงคุ้นหูเรียกชื่อเขาเสียงแผ่ว ทั้งร่างชะงักไปในบัดดล ความคิดของเขาพร้อมจะปฏิเสธ.. พร้อมจะมองหาต้นเหตุของความผิดปกตินี้ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์อย่างนั้นหรือ?.. เพราะผลข้างเคียงจากยาที่ใช้?.. หรือเกิดจากการปรุงแต่งของจิตในความฝัน?
เวลาเพียงชั่วครู่หากแลดูเนิ่นนานเหลือเกินที่ความนิ่งงันเข้ากลืนกินบรรยากาศ ชาร์ลส์เลื่อนสายตาเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย ราวจะเป็นฝันซ้อนฝัน.. ทั้งใบหน้าอันเป็นอีริคไม่ผิดแน่.. ทั้งนัยน์ตาสีเทาครึ้มแสนคุ้นเคย.. ที่ตอนนี้เขาอยากจะสบให้ลงลึกยิ่งนัก อยากจะรู้ว่ายังหลงเหลือความปราณีให้กันบ้างหรือไม่?
เหตุใดจึงต้องทำร้ายกันด้วยการพรากเอาสิ่งสำคัญไปจากเขา แล้วกลับมาเติมเต็มความวูบโหวงในอก.. ตอกย้ำความเปลี่ยวดายที่มี
ยิ่งเมื่อกลอนประตูบานใหญ่นั่นสามารถทำงานปิดลงเองได้โดยไม่ต้องอาศัยบุคคลใด ..มีเพียงคนเดียวที่จะสามารถควบคุมโลหะได้แบบนั้น ก็ยิ่งแน่ชัดว่านี่คือความเป็นจริง.. ไม่ใช่อะไรที่ชาร์ลส์นึกคิดไปเอง
“ ยังจะ.. กลับมาอีกรึไง.. ” เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะควบคุมเสียงของตนไม่ให้สั่น แม้ว่าสภาพปัจจุบันของเขาในตอนนี้จะน่าสมเพชเพียงใดก็ตาม หากแต่ชาร์ลส์ก็ไม่อยากจะให้อีริคคิดว่าเขามันยอมอ่อนให้เสมอ..
ชาร์ลส์สังเกตเห็นว่านัยน์ตาสีเทาเข้มคู่นั้นจับจ้องยังเศษซากบนกระดานหมากรุกด้วยความโศกสลดไม่ต่างจากเขาเมื่อตอนที่ทำลายมันเอาเสียเลย ร่างสูงโปร่งนั่นเขยื้อนกายเข้าใกล้ ถอดเอาหมวกเหล็กที่ใช้ปิดกั้นการอ่านความคิดนั่นออก
“ ขานาย? ทำไมถึง… ”
“ แฮงค์คิดค้นยาตัวนึงให้ฉัน ถ้าขาฉันทำงานได้เมื่อไหร่ ในนี้ก็จะไม่ได้ยินอะไรเลย ” ศาสตราจารย์หนุ่มกล่าวตอบพร้อมทั้งชี้ขมับของตน และนั่นก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ม่านหมอกแห่งความนิ่งงันจนน่าอึดอัดเข้าครอบคลุม
“ ฉัน.. ขอโทษ.. ”
เพียงแค่การยินยอมให้เขาใช้พลังจิตเฉพาะตนนั้นก็ทำให้ใจอ่อนยวบมากพออยู่แล้ว ยิ่งสามคำอันเรียบง่ายที่ถูกเอ่ยออกมานั่นอีก ความรู้สึกรวดร้าวก็ยิ่งบีบรัดแน่นในอก เขาไม่อยากถลำลึกสู่ห้วงความรักมืดบอดนั่นอีกแล้ว.. เขาไม่อยากถูกทำร้ายซ้ำซาก
“ ฉันคิดถึงนาย.. ”
สองมืออบอุ่นตรงเข้าประคองใบหน้า เรียวปากนุ่มหยุ่นแนบชิดตรงหว่างคิ้ว ..ประทับหนักแน่นจนชาร์ลสั่นไหว
..หมดกัน.. ทุกความพยายามในการเกลียดชังอีริคของเขา..
ชาร์ลส์เคลื่อนใบหน้าประทับริมฝีปากของอีกฝ่ายที่โน้มรับอย่างว่าง่าย พวกเขาทั้งคู่แทบจะหลงลืมไปแล้วว่าสาเหตุความบาดหมางจนทำให้ต้องแยกเป็นสองฟากฝ่ายของกันและกันนั้นคืออะไร อ้อมแขนเลื่อนโอบแผ่นหลังกว้างอย่างโหยหา ความสั่นไหวภายในถูกเค้นออกมาเป็นคำพูดอย่างเชื่องช้า
“ ฉัน.. ก็คิดถึงนาย ”
ปรับเปลี่ยนองศาเพื่อให้เรียวลิ้นฉ่ำชื้นแทรกสอดยังโพรงปากอ่อนนุ่ม คนตัวเล็กกว่าผละออกครู่หนึ่ง กระซิบบอกคนตรงหน้าเสียงแผ่ว “ ไปที่ห้องนอนเถอะ.. ”
เปลือกนอกของความรักอาจหอมหวาน.. ชวนให้ลุ่มหลง หากแท้จริงแล้วนั้นเป็นดั่งคำสาปที่ตราตรึง เป็นความขมขื่นอันแสนทรมาน เป็นหุบเหวดำมืดอันยากยิ่งนักที่จะตะกายขึ้นมา.. ทว่าแทบทุกชีวิตก็ยังคงโหยหาและไขว่คว้ามันอยู่เสมอ.. เฉกเช่นเดียวกับสองหัวใจที่กำลังร่วงหล่น..
.
.
สองมือน้อยๆปลดกระดุมเสื้อของตนออกก่อนจะหย่อนกายแนบกับลานเตียง ทว่ายังไม่ทันที่จะได้เปลื้องอาภรณ์เบื้องล่างออกนั้นเอง มือข้างหนึ่งที่สวมนาฬิกาอยู่ก็ถูกแรงไร้ที่มากระชากอย่างไม่แรงมากให้พ้นทาง ชาร์ลส์ตกใจชั่วขณะหนึ่ง.. ก่อนจะตระหนักได้ว่าผู้มีพลังในการควบคุมโลหะนั้นอยู่ตรงหน้าเขานี้เอง
“ บอกกันก่อนสักคำก็ดีนะอีริค ” ศาสตราจารย์หนุ่มขึ้นเสียงดุเล็กน้อย ขณะที่อีริคตอบกลับด้วยเสียงหัวเราะแผ่วๆ
“ เดี๋ยวฉันจัดการให้เอง ”
ร่างเปลือยเปล่าทาบทับ ไล้เลียแผ่นอกนวลเนียน เน้นย้ำตรงปลายยอดสีหวาน ขณะที่ปลายนิ้วลากสัมผัสบางสิ่งอันซุกซ่อนภายใต้กางเกงตัวหนา ปลุกปั่นความต้องการให้แล่นพล่านจนร่างข้างใต้สั่นสะท้าน
“ อื้อออ.. ย.. อยากจะทำอะไรก็รีบๆทำซะทีสิ ”
ชาร์ลส์บิดเร่า เร่งเร้าให้อีกคนปลดเปลื้องกางเกงอันน่ารำคาญนี่ออกไปเสียที ใบหน้าหวานซ่านสีเลือดระเรื่อ.. เขาแทบจะทนไม่ไหวกับความคับแน่นนี่แล้ว “ อ..อีริค.. ”
“ ชู่วว์.. ฉันอยู่นี่ เดี๋ยวฉันช่วย.. ”
อีริคประทับจูบดูดดื่ม เลื่อนไต่ตามต้นขาที่ถดเข้าหาเล็กน้อยเนื่องด้วยต้องสัมผัสอากาศภายนอก ฟ้อนเฟ้นถ้วนทั่วจนถึงพื้นที่ของสะโพกนิ่ม
“ อ๊ะ.. ”
และอีริคก็ยังคงเป็นอีริคที่รู้วิธีในการสร้างความสุขบนเตียงให้เขาได้เสมอ ชายร่างสูงบรรจงสอดนิ้วแกร่งตามช่องทางด้านหลัง ขณะที่มืออีกข้างปรนเปรอความปรารถนาอันใกล้จะแตกพล่านในไม่ช้า
“ รู้สึกดีมากใช่มั๊ยชาร์สล์? ”
“ อื้อออ.. ข.. เข้ามาอีก ” ยิ่งเมื่ออีริคเพิ่มจำนวนนิ้วและขยับจังหวะให้เร่งเร็วกว่าเดิมเท่าไหร่ ชาร์ลส์ยิ่งหอบสะท้านกับความรู้สึกเสียวซ่านที่แล่นผ่านทั่วร่าง “ ร..แรงอีก ต..ตรงนั้น.. ” กามารมณ์ยังไม่อาจมอดดับลงได้ในขณะนี้
หากทว่าอีริคไม่ยอมปล่อยให้ร่างข้างใต้นั่นเสร็จกามกิจไปก่อนโดยที่ตนเองยังคงค้างคาอยู่เช่นนั้นหรอก ชายหนุ่มชะงักไว้เสียตรงนั้น จับขาเพรียวแยกออกเล็กน้อยก่อนจะแทรกสอดแกนกายของตนให้จมลึกสุดทาง ..ด้วยความเนิบช้าและนุ่มนวล เสียงครางทุ้มเร่าร้อนผสานกับเสียงชีพจรที่ระรัวในอก
“ ช..ชาร์ลส์.. ”
อีริคพาดขาอีกฝ่ายไว้บนบ่า จัดท่วงท่าเพื่อความสะดวกในการสอดใส่ สองร่างสัมผัสแนบแน่นจนแทบจะไร้สิ่งใดเล็ดรอดผ่านไปได้ กระนั้นเองก็ดูท่าว่าความต้องการของทั้งคู่ก็ยังไม่เพียงพอเสียที อยากแนบชิดมากกว่านี้.. อยากกอดเกี่ยวเวลาอันมีค่าของกันและกันไว้นานกว่านี้..
“ อ๊า.. ”
ศาสตราจารย์หนุ่มกระตุกเกร็ง เสียงครวญครางอย่างสุขสมกรีดร้อง ยามเมื่อของเหลวขุ่นเปรอะเปื้อนเติมเต็มช่องทาง สัมผัสอบอุ่นจากรสสวาทและผิวเนื้อที่ห่อหุ้มกันและกันนั้นยังคงกระจ่างชัดไม่จางหาย.. ทว่าไม่อาจแผ่ซ่านจนถึงหัวใจ
“ รักฉันมั๊ยชาร์ลส์? ”
น้ำเสียงกระซิบแผ่วจากเรียวปากคดโค้งที่พรมจูบบริเวณขมับเอ่ยคำถามที่ทำให้เขาสะท้านสั่นยิ่งกว่าเก่า อ้อมแขนที่กอดเกี่ยวรอดแน่นคล้ายจะอ่อนแรงลงไป
ความอ้างว้างก่อตัวเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่ เป็นอีกครั้งที่ชาร์ลส์ปล่อยให้ตนเองร่วงหล่นลงไป “ ร..รัก.. ” ห้วงความรู้สึกที่ถูกความเดียวดายกรีดลึกจนเหวอะหวะเค้นคำรักออกมาอย่างยากลำบาก ความร้อนผ่าวเข้าครอบครองนัยน์ตาอย่างห้ามไม่อยู่
..เขาจมลงสู่กระแสธารแห่งความผิดบาปอันเย็นเยือกอีกครั้ง..
..มันอาจจะชิน และไม่เคยชา.. ความเจ็บยังคงทำร้ายเขาอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยแรงที่คงเดิม..
“ อย่า.. อย่าร้องไห้เพราะฉัน ”
ชาร์ลส์ไม่คิดว่าตัวเองจะร้องไห้ ทว่าเมื่อสัมผัสจากเรียวมืออบอุ่นนั้นเข้าประคองใบหน้า ท้ายที่สุดความเปียกชื้นก็ร่วงผ่านผิวแก้มลงมาเสียได้ “ ได้โปรดเถอะอีริค.. ” เขาแนบใบหน้าทาบทับลงกับฝ่ามืออันแสนคุ้นเคยนั่น.. ซึ่งอาจจางหายไปเมื่อใดก็ได้
“ อย่าทำเหมือนจะไปจากฉันอีกเลยนะ.. ”
ทำไมกัน?.. ทั้งที่เขาเคยเป็นคนบอกอีริคด้วยซ้ำว่าจะไม่ยอมทอดทิ้งอีกฝ่าย เป็นฝ่ายยื่นมือดึงอีริคออกมาจากความมืดมนเหล่านั้น แล้วทำไม?.. ทำไมถึงต้องปล่อยมือแล้วผลักเขาให้จมลงไปแทน.. ให้เขาเจ็บซ้ำซากจนไม่อาจหาจุดสิ้นสุดได้เลย
ไร้ซึ่งคำตกลงใดๆกล่าวตอบประโยคร้องขอนั้น นัยน์ตาสีเข้มครึ้มสบลึกด้วยแววสงสารระคนสำนึกผิด บดเบียดริมฝีปากด้วยรสสัมผัสแผ่วจางและละเมียดละมุน หากเปี่ยมด้วยความขื่นขมระทมทุกข์.. .
.
อีริคใช้ปลายนิ้วเกลี่ยกลุ่มผมสีรัตติกาลชื้นเหงื่อที่แผ่กระจายบนใบหน้าอีกคนนั้นออก มันเริ่มดูไม่เป็นทรงและความยาวก็เพิ่มมาเรื่อยเนื่องด้วยความไม่ใส่ใจจะดูแลของเจ้าของ ชายหนุ่มพินิจวงหน้าของผู้ที่จมดิ่งสู่ห้วงนิทราอย่างนิ่งสนิท.. เลื่อนมองยังดวงเนตรกลมโตที่พริ้มหลับ ขอบตาแดงเรื่อ
เพียงเท่านั้นความรวดร้าวก็กลืนกินพื้นที่ในอก.. เป็นอีกครั้งที่เขาทำร้ายและทำลายคนตรงหน้า เขาไม่เคยคิดอยากจะทอดทิ้งชาร์ลส์เลยด้วยซ้ำ หากแต่เมื่ออุดมการณ์และความคิดที่ไม่ตรงกันนั้นเอง จะให้ฝืนทนด้วยอยู่กันต่อไปก็จะยิ่งแตกหักกว่าเก่า
เหตุผลแท้จริงในการมาเยือนของเขาในครั้งนี้.. ก็เพื่อที่จะกอดเก็บชิ้นส่วนของความรักแตกหักที่เขาหลงลืมไว้ เพราะไม่รู้ว่าอีกเมื่อใดที่จะได้พบพานกันอีก.. หรืออาจจะไม่อีกเลย.. ตลอดชีวิต
เพราะความผิดบาปที่เขาก่อไว้นั้นมันหนักหนา.. กระสุนที่เลี้ยวโค้งได้ซึ่งใช้สังหารประธานาธิบดีนั้นมีเพียงเขาคนเดียวที่สามารถทำได้ เขากำลังจะไปรับโทษนั้นในไม่ช้า
..ขอโทษนะ.. ฉันขอโทษ..
อีริคเอ่ยคำนี้ดังกึกก้องในความคิด เขาไม่อาจล่วงรู้ว่ายาที่แฮงค์คิดค้นนั้นจะมีผลต่อชาร์ลส์ได้นานขนาดไหน แต่ถ้าหากมันหมดฤทธิ์ลงแล้ว.. คำพูดเหล่านั้นอาจแทรกผ่านให้ชาร์ลส์รับรู้ได้ด้วยพลังจิตพิเศษ ผ่านห้วงฝัน.. ถ่ายทอดความรู้สึกที่มีจนหมดสิ้น
เขาโน้มใบหน้าลง รินรดลมหายใจอุ่นร้อนผะแผ่วบริเวณผิวแก้มของคนรัก แนบเรียวปากลงไปอีกครั้งหนึ่ง
..แม้จะต้องก้าวผ่านความทรมานและหยาดน้ำตามากเพียงใด.. เขาจะยังเป็นอีริคที่รักชาร์ลส์เสมอ..
THE END
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
TALK TO WRITER:
ตอนแรกก็คิดแค่ว่าจะแต่งเอ็นซีคู่นี้เพื่อการแก้บนเท่านั้น (ขอคารวะในความเฮี้ย—ของคู่นี้ค่ะ)
ไปๆมาๆกลายเป็นฟิคที่ต้องไปทุ่มกับส่วนอื่นๆมากกว่าฉากเอ็นซีซะอีก ๕๕๕๕
พยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้มันดูเศร้ามากกว่าโป๊ แถมไม่เคยแต่งแนวที่ทั้งคู่มีใจให้กันแต่รักกันไม่ได้แบบนี้อีก ยากเลยโฮรววว TAT
อาจจะดูขาดๆเกินๆบางส่วนก็ขออภัยนะก๊ะ ;;w;;
แง แอบสงสารชาร์ลคงเจ็บน่าดูเลยนะคะ
เดาว่า เอริค น่าจะมาหาครั้งนี้ แล้วก็หายไปนาน ๆ อีกแน่เลย ทรมานน่าดู 😭😭😭
LikeLiked by 1 person